ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนที่ระดับ 110 เยนต่อดอลลาร์ที่ตลาดปริวรรตเงินตราญี่ปุ่นวันนี้(30 พ.ย.) ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากกลุ่มผู้นำเข้าสินค้าของญี่ปุ่นที่หลั่งไหลเข้าซื้อเงินสกุลดอลลาร์ในช่วงปลายเดือนกันอย่างคึกคัก แต่ปัจจัยที่มีเข้ามาในตลาดขณะนี้ยังไม่ช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์มากนัก หลังจากที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาส่งสัญญาณว่า จะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมนี้ ด้านเงินยูโรเคลื่อนไหวแข็งค่าขึ้นเหนือระดับ 162 เยนต่อยูโร จากปัจจัยหนุนในตลาดหุ้นสหรัฐและตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่แข็งแกร่ง สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ในช่วงเที่ยงวันนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 110.15-110.20 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับระดับ 109.88 -109.98 เยนต่อดอลลาร์ที่ตลาดนิวยอร์ก และจากระดับ 109.74 -109.76 เยนต่อดอลลาร์ที่ตลาดโตเกียววานนี้ ขณะที่ค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวที่ระดับ 1.4742-1.4747 ดอลลาร์ต่อยูโร และ 162.45-162.50 เยนต่อยูโร เมื่อเทียบกับระดับปิดวานนี้ที่ 1.4739-1.4749 ดอลลาร์ต่อยูโร และ 162.03-162.13 เยนต่อยูโรที่ตลาดนิวยอร์ก ดีลเลอร์กล่าวว่า จากการที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนนั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่กลุ่มผู้นำเข้าของญี่ปุ่นพากันเข้าซื้อเงินสกุลดอลลาร์กันอย่างคึกคักในช่วงปลายเดือน แต่เงินดอลลาร์ยังคงมีความเสี่ยงว่าจะถูกเทขายออกมาเนื่องจากมีกระแสคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย อีกทั้งยังมีสัญญาณบ่งชี้ทางเศรษฐกิจสหรัฐที่ผันผวน นายโคจิ ฟูกายะ นักวิเคราะห์จากบริษัทดอยทซ์ ซีเคียวริตี้ อิงค์กล่าวว่า "เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงแน่นอน" เนื่องจากถ้อยแถลงของนายเบอร์นันเก้ที่มีขึ้นในวันนี้ ออกมาในทิศทางเดียวกับที่นายโดนัลด์ คอห์น รองประธานเฟดกล่าวไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทั้งนี้ เมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา เฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นลง 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 4.5%