สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลเปิดเผยรายงานวิจัยว่า ภาวะเศรษฐกิจแบบซอฟท์แลนดิ้งของสหรัฐจะเป็นผลดีต่อค่าเงินดอลลาร์ แต่หากปัญหาในตลาดปล่อยกู้จำนองให้กับลูกหนี้ที่ขาดความน่าเชื่อทำให้เศรษฐกิจสหรัฐตกอยู่ในความเสี่ยงมากขึ้น ก็จะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อดอลลาร์ ทั้งนี้ นับตั้งแต่ต้นปี 2545 ดัชนีชี้วัดความแข็งแกร่งของค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินทั่วโลก ร่วงลงไปแล้วประมาณ 35% โดยดอลลาร์ร่วงลงหนักสุดเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร นายไมค์ ธอมสัน กรรมการผู้จัดการฝ่ายวิจัยของธอมสัน ไฟแนนเชียลกล่าวว่า "การที่เงินดอลลาร์อ่อนตัวลงในขณะนี้ ทำให้สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นแล้วประมาณ 38% นอกจากนี้ กระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดอัตราดอกเบี้ย และความแตกต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐและเยอรมนี ยังคงเป็นปัจจัยบวกต่อสกุลเงินยูโร แต่เป็นปัจจัยลบต่อสกุลเงินดอลลาร์" "นอกจากนี้ ความแตกต่างด้านอัตราการขยายตัวของตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรป นับเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินยูโร" นายธอมสันกล่าว