กระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น (METI) กล่าวว่า ความพยายามในการประหยัดพลังงานให้ได้สูงสุดของบรรดาบริษัทและครัวเรือน จะทำให้ญี่ปุ่นสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงในปีงบประมาณ 2563 ได้ 11% นับตั้งแต่ปีงบประมาณ 2548-2549 ในรายงานแนวโน้มอุปสงค์และอุปทานพลังงานในระยะยาวซึ่งได้ยื่นเสนอต่อคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านทรัพยากรธรรมชาติและพลังงาน METI คาดการณ์ว่า รัฐบาลจะตั้งเป้าการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอนาคต หลังจากที่พิธีสารเกียวโตว่าด้วยการปรับลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกหมดอายุลงในปี 2555 จากต้นทุนที่ได้ประมาณการไว้นั้น คาดว่าบรรดาบริษัทในญี่ปุ่นอาจจะต้องลงทุนรวม 25.6 ล้านล้านเยน เพื่อเปิดตัวเทคโนโลยีและเครื่องจักรใหม่ๆที่ประหยัดการใช้พลังงานตามโรงงานและสำนักงานต่างๆ ขณะเดียวกันก็คาดว่า ครัวเรือนต่างๆในญี่ปุ่นอาจต้องแบกรับภาระในการปฏิบัติตามมาตรการต่างๆที่รัฐบาลกำหนดขึ้น อาทิ การเปลี่ยนมาใช้เครื่องผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ โดยคาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 26.7 ล้านล้านเยน METI คาดการณ์ว่า ความพยายามในการอนุรักษ์พลังงานให้ได้สูงสุดจะช่วยให้ญี่ปุ่นสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงในปีงบประมาณ 2563 เหลือ 1.21 พันล้านตัน ลดลง 11% จากระดับ 1.36 พันล้านตันในปีงบประมาณ 2548 และลดลง 4% จากปีงบประมาณ 2533 สำนักข่าวเกียวโดรายงาน