ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.15 เคลื่อนไหวตามทิศทาง Flow จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐคืนนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Friday May 27, 2022 17:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 34.15 บาท/ดอลลาร์ ขยับแข็งค่าเล็กน้อย จากเปิดตลาดเมื่อเช้าอยู่ที่ระดับ 34.17 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินภูมิภาคเคลื่อนไหวแบบผสม ส่วนเงินบาทเคลื่อนไหวตามแรงซื้อแรง ขายของผู้นำเข้าและผู้ส่งออก ระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 34.12 - 34.24 บาท/ดอลลาร์

"บาทแข็งค่าจากช่วงเช้าเล็กน้อย เคลื่อนไหวตาม Flow จากผู้นำเข้าและผู้ส่งออก" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันจันทร์ไว้ที่ 34.00 - 34.25 บาท/ดอลลาร์ โดยคืนนี้มีข้อมูล สำคัญ คือ การเปิดเผยค่าใช้จ่ายส่วนบุคคลของสหรัฐที่สะท้อนถึงตัวเลขเงินเฟ้อได้

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 127.05 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 126.97 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0717 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0733 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,638.75 จุด เพิ่มขึ้น 5.02 จุด, +0.31% มูลค่าการซื้อขาย 66,000.12 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 999.12 ล้านบาท (SET+MAI)
  • รมว.พาณิชย์ ระบุว่า การส่งออกในเดือนเม.ย. ขยายตัว 10% จากตลาดคาด 14.6% โดยยังขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือน
ที่ 14 ท่ามกลางปัจจัยกดดันจากการสู้รบในยูเครนและมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียที่ส่งผลต่อการชะงักงันของห่วงโซ่อุปทานการผลิต รวม
ถึงผลักดันเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ นอกจากนี้ ภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนจากมาตรการล็อกดาวน์ในหลายเมือง ส่งผลกระทบต่อ
ภาพรวมเศรษฐกิจทั่วโลก
  • ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ SME (SME Sentiment Index: SMESI) ประจำเดือนเม.ย. 65 พบว่า ค่าดัชนี
SMESI อยู่ที่ระดับ 50.5 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 49.1 โดยปัจจัยสำคัญมาจากการเดินทางและการท่องเที่ยวที่เพิ่ม
มากขึ้น ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่มีวันหยุดยาว ส่งผลให้องค์ประกอบในการดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้นทุกองค์ประกอบ โดยเฉพาะด้านกำไรและ
คำสั่งซื้อ ที่ค่าดัชนีปัจจุบันมีอัตราการเพิ่มขึ้นสูงสุดอยู่ที่ 54.3 และ 56.5 จากระดับ 51.6 และ 55.4 สะท้อนได้ว่าผู้ประกอบการมีความ
เชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้น
  • ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงฟื้นฟู แต่ยังคงมีความเปราะบาง จากปัจจัยเสี่ยงทาง
เศรษฐกิจ โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ไทยมีการส่งออกเป็นพระเอก แต่ตอนนี้จะเป็นการสลับขั้วกัน การส่งออกจะโตได้ไม่มากเนื่องจากถูก
จำกัดจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ปัญหาสงครามรัสเซีย-ยูเครน และราคาน้ำมันโลกที่พุ่งสูงขึ้น ต่อจากนี้ไป ภาคค้าปลีกและบริการ
จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และถือเป็นเครื่องจักรสำคัญที่จะทำให้ภาคการท่องเที่ยวโตขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ เพราะใน
ขณะนี้ ประเทศไทยต้องพึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเป็นหลัก โดยภาคการท่องเที่ยวมี SMEs ของค้าปลีกและบริการอยู่
เป็นจำนวนมาก ซึ่ง SMEs ของภาคค้าปลีกและบริการนั้นมีจำนวนถึง 2.4 ล้านราย คิดเป็น 80% ของ SMEs ทั้งประเทศ (SMEs ทั้ง
ประเทศมีจำนวนกว่า 3 ล้านราย)
  • รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า การเติบโตของสินทรัพย์ดิจิทัลใหม่ ๆ และการที่เหรียญคริปโทเคอร์เรน
ซีทรุดตัวลงอย่างหนักเมื่อไม่นานมานี้ สะท้อนให้เห็นว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้กฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นในการกำกับดูแลสินทรัพย์เหล่า
นี้
  • สหรัฐและไต้หวันเตรียมจัดการเจรจาเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ซึ่งถือเป็นการท้าทายจีนครั้งใหม่หลังจากที่จีน
เคยออกมาเตือนสหรัฐเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่มีต่อไต้หวัน โดยการเจรจาจะมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมความร่วมมือกันทางเศรษฐกิจและความ
ยืดหยุ่นด้านห่วงโซ่อุปทาน โดยข้อตกลงดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะครอบคลุมถึงการอำนวยความสะดวกทางการค้า การทำงานของห่วงโซ่อุป
ทาน และการค้าผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ