นายฉาง ชุน-เซียง นายกรัฐมนตรีไต้หวัน มีคำสั่งให้หน่วยงานของรัฐบาลศึกษาความเป็นไปได้ในการยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์ที่จำเป็นเป็นการชั่วคราว เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาผู้บริโภค อย่างไรก็ดี คณะรัฐมนตรีไต้หวันไม่ได้ระบุว่า มีสินค้าโภคภัณฑ์รายการใดบ้างที่อาจจำเป็นต้องยกเลิกการจัดเก็บภาษีนำเข้า โฆษกกระทรวงการคลังกล่าวว่า ภายใต้กฎระเบียบที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนั้น ทางกระทรวงสามารถเพิ่มหรือลดภาษีได้ไม่เกิน 50% แต่ขณะนี้กระทรวงกำลังจะขออนุญาตเปลี่ยนแปลงกฎให้สามารถขึ้นหรือลดภาษีได้ถึง 100% เพื่อที่รัฐบาลจะได้ยกเลิกการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้ารายการสำคัญๆ ถ้าจำเป็น ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้ลดภาษีนำเข้าเป็นการชั่วคราวในช่วงระหว่าง 6 ก.พ. - 5 ส.ค. โดยมีผลบังคับใช้กับสินค้าโภคภัณฑ์ 8 รายการ เช่น ข้าวสาลี ถูกลดภาษีลงเหลือ 3.25% จากเดิมที่ 6.5% ขณะที่แป้งสาลี ถูกลดภาษีลงเหลือ 8.75% จากเดิมที่ 17.5% ซึ่งถ้าหากรัฐบาลไม่ปรับลดภาษีเพิ่มอีกภายในวันที่ 5 ส.ค. สินค้าเหล่านี้ก็จะถูกเก็บภาษีนำเข้าในอัตราเดิม นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า ไต้หวันพึ่งพาการนำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์อย่างมาก อาทิ แป้ง ข้าวโพด และถั่ว เนื่องจากไต้หวันสามารถผลิตพืชผลเหล่านี้ได้ในปริมาณน้อย "บริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารสัตว์ น้ำมันปรุงอาหาร และแป้ง จะเป็นผู้ที่ได้ประโยชน์ ถ้ารัฐบาลยกเลิกการเก็บภาษีวัตถุดิบต่างๆ" เขากล่าว