ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (31 มี.ค.) สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดระดับใหม่เมื่อเทียบกับยูโร เนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์ก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรในสัปดาห์นี้ ขณะที่สกุลเงินยูโรแข็งแกร่งขึ้นหลังจากมีรายงานว่าดัชนีราคาผู้บริโภคในเขตยูโรโซนพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนมี.ค. สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.5784 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.5800 ดอลลาร์/ยูโร อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และดอลลาร์ออสเตรเลีย โดยดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 99.700 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 99.120 เยน/ดอลลาร์ ขณะที่ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลงแตะระดับ 0.9139 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.9176 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนตัวลงแตะระดับ 0.7864 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7954 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ นักลงทุนเทขายดอลลาร์สหรัฐโดยไม่ให้น้ำหนักกับรายงานของสมาคมผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเขตชิคาโกที่ระบุว่า ดัชนี PMI ที่บ่งชี้ว่า กิจกรรมทางธุรกิจในแถบมิดเวสต์ของสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 48.2 จุดในเดือนมี.ค. จากเดือนก.พ.ที่ระดับ 44.5 จุด ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ดาวโจนส์ นิวส์ไวร์คาดว่าจะอยู่ที่ 47.3 จุด ขณะที่สกุลเงินยูโรแข็งแกร่งขึ้นเนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจใช้มาตรการสกัดกั้นเงินเฟ้อ ซึ่งรวมถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากยูโรสแตทเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ในเขตยูโรโซนพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.5% ในเดือนมี.ค. ซึ่งสูงกว่าที่อีซีบีกำหนดไว้ที่ 2% ดอลลาร์ถูกเทขายอย่างหนักก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนมี.ค.ในคืนวันศุกร์ (ตามเวลาประเทศไทย) โดยนักวิเคราะห์ของเลห์แมน บราเธอร์สคาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐจะร่วงลงอีก 50,000 อัตราในเดือนมี.ค. ซึ่งจะเป็นสัญญาณครั้งใหม่ที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้