ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 37.41 ตลาดรอดูตัวเลขจ้างงานสหรัฐคืนนี้-เงินเฟ้อสหรัฐสัปดาห์หน้า

ข่าวเศรษฐกิจ Friday October 7, 2022 17:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 37.41 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงจาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 37.43 บาท/ดอลลาร์

ระหว่างวันเงินบาทค่อนข้างผันผวน โดยแข็งค่าสุดที่ระดับ 37.33 บาท/ดอลลาร์ และอ่อนค่าสุดที่ระดับ 37.51 บาท/ ดอลลาร์ วันนี้มีแรงเทขายพันธบัตรจากนักลงทุนต่างชาติประมาณ 1,600 ล้านบาท ขณะที่คืนนี้ นักลงทุนรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาค เกษตรของสหรัฐ เดือนก.ย. โดยตลาดคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 2.5 แสนคน

ขณะที่สัปดาห์หน้า มีปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนรอดูในช่วงวันพฤหัส คือ การรายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนก.ย.ของสหรัฐ

"สัปดาห์หน้า บ้านเราเปิดทำการเพียง 3 วัน เพราะมีช่วงวันหยุดยาว จึงคาดว่าต้นสัปดาห์ตลาดจะย่อยข่าวตัวเลข non farm ของสหรัฐ เพราะช่วงที่สหรัฐรายงานเงินเฟ้อ บ้านเราอยู่ในช่วงวันหยุดยาว" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า เงินบาทสัปดาห์หน้าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 37.30 - 37.50 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 144.84 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 145.00 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 0.9804 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 0.9794 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,579.66 ลดลง 9.52 จุด (-0.60%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 50,536 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 3,213.50 ลบ.(SET+MAI)
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยภาพรวมระบบการเงินไทยไตรมาส 3/65 มีเสถียรภาพ แต่ต้องติดตามความเสี่ยง
จากภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ของภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ และอาจกระทบคุณภาพสินเชื่อโดย
เฉพาะกลุ่มเปราะบาง รวมถึงติดตามความผันผวนของตลาดการเงินโลกที่อาจเพิ่มขึ้นในระยะถัดไป
  • รมว.คลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ "การพัฒนาตลาดทุนไทยเพื่อก้าวต่อไปในทศวรรษหน้า" โดยระบุว่า บริบทของ
ตลาดการเงินในปัจจุบันมีความแตกต่างไปจากอดีต เนื่องจากมีทั้ง Digital coin และ Digital asset เข้ามามีบทบาทเพิ่มเติมใน
ตลาดการเงิน ซึ่งหน่วยงานที่กำกับดูแล หรือ regulator จะต้องวางหลักเกณฑ์ในการกำกับดูแลธุรกิจประเภทนี้อย่างสมดุล โดยต้องไม่
สร้างอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องไม่ให้ธุรกิจเอาเปรียบประชาชน อันจะสร้างผลเสียหายตามมาในวงกว้าง
  • ผอ.กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโลกกำลังทรุดตัวลง และความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะ
ถดถอยนั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้น IMF จึงตัดสินใจจะปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจเพิ่มเติม พร้อมเตือนว่าการปรับขึ้น
อัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไปอาจทำให้เศรษฐกิจถดถอยยาวนาน
  • ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เดินหน้ากดดันธนาคารบางแห่งให้ระมัดระวังเรื่องการจ่ายเงินโบนัสและเงินปันผลประจำปี
2565 ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ลงจากปัญหาวิกฤติพลังงาน โดยคำเตือนดังกล่าวถือเป็นเรื่องเร่งด่วน
เนื่องจากขณะนี้ ECB มองว่าเศรษฐกิจยุโรปจะชะลอตัวลงอย่างหนักในปีหน้า
  • ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า เฟดจำเป็นต้องเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนถึงช่วงต้นปีหน้าเพื่อ
กดเงินเฟ้อให้ต่ำลง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่านายวอลเลอร์แทบไม่มีท่าทีสนับสนุนให้เฟดผ่อนคลายการคุมเข้มนโยบายการเงิน
  • ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาคลีฟแลนด์ระบุว่า อัตราว่างงานสหรัฐมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเป็นผลมา
จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด แต่เรื่องดังกล่าวจะไม่ทำให้เฟดหยุดยั้งการต่อสู้กับเงินเฟ้อซึ่งเป็นภารกิจสำคัญเพียงหนึ่งเดียวของ
เฟดในขณะนี้
  • Economist Intelligence Unit (EIU) ซึ่งเป็นหน่วยงานวิเคราะห์เศรษฐกิจ ระบุว่า สกุลเงินของเอเชียมีแนวโน้ม
จะอ่อนค่าลงอีกหนึ่งไตรมาส หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
  • ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ ที่จะมีการรายงานในสัปดาห์หน้า ได้แก่ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ
ธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้
บริโภค (CPI) เดือนก.ย.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ