Moody's Economy.com คาดการณ์ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของจีนในปี 2551 จะปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 9% จากระดับ 11.9% ในปี 2550 Moody's Economy.com กล่าวในรายงานการคาดการณ์เศรษฐกิจจีนว่า สภาพเศรษฐกิจที่ถดถอยในสหรัฐ และเศรษฐกิจในเขตยูโรโซนที่ชะลอตัวลง ป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ยอดส่งออกลดลง และคาดว่าค่าเงินหยวนที่แข็งค่าขึ้นจะเป็นปัจจัยที่ทำให้การส่งออกของจีนมีต้นทุนที่สูงขึ้น มูดี้ส์คาดว่า ธนาคารกลางจีนอาจจะใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินต่อไป และปล่อยให้ค่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้น เพื่อสกัดสภาพคล่องที่ยังคงขยายตัวรวดเร็วเกินไป ทั้งนี้ ผลผลิตจากอุตสาหกรรมหนักและเบาปรับตัวลดลง ซึ่งชี้ให้เห็นว่าบรรดาผู้ผลิตต่างคาดการณ์ว่า ความต้องการจะลดลง นอกจากนี้ ตัวเลขการลงทุนในสินทรัพย์คงที่ที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง โดยตัวเลขการลงทุนปรับตัวลดลงนับตั้งแต่เดือนต.ค.2550 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซา และความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในสหรัฐและยุโรป ส่งผลให้บรรดาผู้ผลิตต่างหันกลับมาทบทวนแผนการลงทุนใหม่อีกครั้ง แม้ว่าการค้าของจีนกับประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆในเอเชีย แอฟริกา และละติน อเมริกา จะขยายตัวอย่างแข็งแกร่งมากกว่าการทำการค้ากับสหรัฐ และยุโรป แต่เศรษฐกิจจีนก็ยังต้องเผชิญแรงกดดันด้านอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน