ดัชนี MPI มิ.ย. หดตัว ตามศก.คู่ค้าอ่อนแอ จ่อทบทวนคาดการณ์ปี 66

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 27, 2023 11:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนี MPI มิ.ย. หดตัว ตามศก.คู่ค้าอ่อนแอ จ่อทบทวนคาดการณ์ปี 66
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) รายงานดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนมิ.ย. 66 อยู่ที่ระดับ 92.53 หดตัว 5.24% เมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย. 65 สำหรับภาพรวมดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ไตรมาส 2/66 อยู่ที่ระดับ 90.14 หดตัวเฉลี่ยอยู่ที่ 5.59% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิต (CapU) เดือนมิ.ย. 66 อยู่ที่ 59.12% ไตรมาส 2/66 เฉลี่ยอยู่ที่ 57.64%

นางวรวรรณ ชิตอรุณ ผู้อำนวยการ สศอ. เปิดเผยว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ MPI หดตัว คือ การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ยังคงชะลอตัวจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่ยังคงอ่อนแอ รวมถึงรายได้เกษตรกรในเดือนมิ.ย. 66 ลดลง 5.99% หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน สะท้อนกำลังซื้อจากภาคเกษตรที่ยังคงเปราะบาง

อย่างไรก็ดี การขยายตัวของภาคการท่องเที่ยว ยังคงทำให้ความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม อาทิ น้ำตาล ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ เครื่องปรุงรส เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ สุรา กาแฟ

"ในเดือนมิ.ย. MPI หดตัวต่อเนื่อง จากทั้งส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมชะลอ รายได้เกษตรกรหดตัว และกังวลเรื่องเอลนีโญ อย่างไรก็ดี ยังคงหวังว่าภาคการท่องเที่ยวจะช่วยพยุง" นางวรวรรณ กล่าว

สำหรับอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลบวกต่อ MPI ในเดือนมิ.ย. 66 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่

  • ยานยนต์ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.37% จากรถยนต์นั่งขนาดกลางและรถยนต์นั่งขนาดเล็กเป็นหลัก ตามการขยายตัวของตลาดส่งออกสำคัญ เช่น เอเชีย โอเชียเนีย และยุโรป เป็นต้น
  • พลาสติกและยางสังเคราะห์ขั้นต้น ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.64% จากผลิตภัณฑ์ Polyethylene resin, Ethylene และ Benzen เป็นหลัก จากการเร่งผลิตชดเชยหลังการหยุดซ่อมบำรุงในช่วงเดือนก่อนหน้า รวมถึงการหยุดผลิตเพื่อปรับเปลี่ยนอุปกรณ์และหยุดซ่อมบำรุงเครื่องจักรของผู้ผลิตบางรายในปีก่อน
  • จักรยานยนต์ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 21.88% เนื่องจากการขยายตัวของตลาดในประเทศและตลาดส่งออก
  • ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.64% จากน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และน้ำมันเครื่องบิน เป็นหลัก เนื่องจากความต้องการใช้หลังการท่องเที่ยวเติบโตต่อเนื่อง และราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงจากปีก่อนกระตุ้นให้เกิดการบริโภคมากขึ้น
  • น้ำตาล ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 8.35% จากผลิตภัณฑ์น้ำตาลทรายขาว และกากน้ำตาล เป็นหลัก เนื่องจากการปิดหีบเร็วกว่าปีก่อน ทำให้สามารถละลายน้ำตาลทรายดิบเป็นน้ำตาลทรายชนิดต่างๆ เพื่อส่งมอบได้มากกว่าปีก่อน
*ภาพรวม MPI ครึ่งปีแรกหดตัว จากเศรษฐกิจโลกชะลอ

ดัชนี MPI 6 เดือนแรก ปี 66 เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 95.73 ลดลง 4.60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิต (CapU) 6 เดือนแรก อยู่ที่ 60.72% รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว แม้การบริโภคภายในประเทศยังขยายตัวจากการท่องเที่ยวฟื้น อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ยังเติบโตต่อเนื่อง คาดปีนี้ผลิตทะลุ 2,100,000 คัน ตอบรับความต้องการตลาดในประเทศและตลาดส่งออกที่เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมที่ยังคงขยายตัวในช่วง 6 เดือนแรกของปี 66 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ ยานยนต์ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 7.23% จากการผลิตรถยนต์นั่งเป็นหลัก รวมทั้งตลาดส่งออกยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง, น้ำตาล ขยายตัวเพิ่มขึ้น 11.76% เนื่องจากปีนี้มีปริมาณอ้อยเข้าหีบมากกว่าปีก่อน

นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม ขยายตัวเพิ่มขึ้น 3.88% เป็นผลจากการเปิดรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบ, น้ำมันปาล์ม ขยายตัวเพิ่มขึ้น 18.61% เนื่องจากความต้องการใช้ที่มากขึ้นในอุตสาหกรรมต่างๆ ตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และจักรยานยนต์ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 16.96% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ

*จ่อทบทวนคาดการณ์ MPI ปี 66 หลังหลายปัจจัยรุมเร้า

นางวรวรรณ กล่าวว่า ในเดือนหน้า สศอ. เตรียมปรับคาดการณ์ MPI ภาคอุตสาหกรรม ปี 66 โดยคาดว่าจะติดลบ และต่ำกว่าปี 65 (เดิมคาดการณ์อยู่ที่ 0.0-1.0%) เนื่องจากมองแนวโน้มในครึ่งปีหลังต่ำลง หลังจากมีหลายปัจจัยรุมเร้า โดยจากความกังวลของผู้ประกอบการ ทั้งราคาพลังงานสูง ดอกเบี้ยสูง มาตรการประเทศคู่ค้า รวมทั้งมาตรการสนับสนุนภาคเศรษฐกิจชะลอ เพื่อรอรัฐบาลใหม่

"หลายมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐในครึ่งปีหลัง ยังไม่ได้รับการพิจารณาจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องชะลอเพื่อรอรัฐบาลใหม่ อาทิ มาตรการยานยนต์แบตเตอรี่ EV 3.5 สศอ. จึงจะออกประมาณการณ์ใหม่เดือนหน้าว่าจะติดลบไปเท่าไร ขอดูตัวเลขเดือนหน้าก่อน แต่ฟันธงว่าต่ำกว่าปี 65 แน่นอน มีหลายปัจจัยทั้งการจัดตั้งรัฐบาลที่ล่าช้า ที่ยิ่งช้าเท่าไรก็มีผลต่อมาตรการ และการแก้ปัญหาเศรษฐกิจมากเท่านั้น ประกอบกับปัจจัยต่างประเทศที่มีอยู่แล้ว ทั้งเรื่องเศรษฐกิจโลก การชะลอคำสั่งซื้อ ราคาน้ำมันที่ไม่ลง เป็นต้น" นางวรวรรณ กล่าว
*อุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์น่าจับตา ไทยส่งออกอันดับ 4 ของโลก

อุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถจักรยานยนต์ที่สำคัญของโลก การส่งออกรถจักรยานยนต์ของไทย เป็นอันดับ 4 ของโลก มีมูลค่าการส่งออก 2,974 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยตลาดส่งออกหลัก 5 อันดับแรก คือ เบลเยียม จีน สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และญี่ปุ่น

ทั้งนี้ ปัจจัยสนับสนุนที่ส่งผลให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิต ได้แก่ ตลาดในประเทศมีขนาดใหญ่ มีกำลังซื้ออย่างต่อเนื่อง นโยบายการส่งเสริมการลงทุน โดยให้การส่งเสริมการลงทุนประเภทกิจการรถจักรยานยนต์ที่มีความจุกระบอกสูบมากกว่า 248 ซีซี. ของบริษัทรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ของต่างชาติที่เข้ามาตั้งโรงงานในประเทศไทย

นอกจากนี้ ประเทศไทยมี Supply Chain ตลอดห่วงโซ่ และแรงงาน ในประเทศที่มีทักษะฝีมือในด้านการผลิต และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) มีการคาดการณ์ ในปี 66 ว่าจะมีการผลิตรถจักรยานยนต์ 2,100,000 คัน แบ่งเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 1,750,000 คัน และผลิตเพื่อการส่งออก 350,000 คัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ