ภาคธุรกิจท่องเที่ยวมองเหตุยิงกลางห้างสยามพารากอนวานนี้ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นนักท่องเที่ยวจีน และชาวเมียนมา ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น และภาคการท่องเที่ยวในระยะสั้น โดยคาดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะหายไปราว 1 ล้านคน กระทบเป้าหมายทั้งปีที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยว 29-30 ล้านคน สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท
นายกิตติ พรศิวะกิจ ประธาน Smart Tourism สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า คนจีนส่วนใหญ่มีความกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวานนี้ ดังนั้น มองว่าในระยะสั้น เหตุการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น และภาคการท่องเที่ยว
ในส่วนของจำนวนนักท่องเที่ยว จากเดิมที่คาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะเข้ามาในช่วง 5 เดือน ฟรีวีซ่าเฉลี่ยเดือนละ 700,000 คน รวมเป็นนักท่องเที่ยวจีนปีนี้ 4.6 ล้านคน แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวคาดการณ์ว่า นักท่องเที่ยวจีนจะหายไปอย่างหนักในช่วง 1 เดือนแรกกว่า 50% และมีผลกระทบติดลบประมาณ 30% ในช่วง 3 เดือน (พ.ย.-ธ.ค.) นักท่องเที่ยวจีนจะหายไปประมาณ 770,00 คน
ทั้งนี้ หากรวมนักท่องเที่ยวชาติอื่นคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวลดลงไปประมาณ 1 ล้านคน หากรัฐบาลไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้กลับมาได้ และไม่มีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพิ่มเติม รวมมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวปี 66 ที่คาดการณ์ว่าจะได้ที่ 29-30 ล้านคน น่าจะลดลงเหลือ 28-29 ล้านคน
"มองว่านโยบายฟรีวีซ่าตอนนี้มีความท้าทายสูง ถ้าไม่มีฟรีวีซ่าเลยจำนวนนักท่องเที่ยวจีนน่าจะหายไปมากกว่านี้ อย่างไรก็ดี ในส่วนของนักท่องเที่ยวจีนที่วางแผนจะเดินทางเข้ามาช่วง Golden week น่าจะยังไม่ได้รับผลกระทบ ไม่ได้ยกเลิกการเดินทาง แต่น่าจะมีความระมัดระวังมากขึ้น จับตาช่วงกลางเดือนต.ค.-ต้นเดือนพ.ย. จะมีความท้าทายมาก ซึ่งปกติแล้วต้องเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก ต้องอาศัยความใส่ใจของรัฐบาลต่อผู้สูญเสีย และมาตรการการสื่อสารที่ดี" นายกิตติ กล่าวอย่างไรก็ดี หากรัฐบาลมีนโยบายเพิ่มเติม เช่น เร่งสร้างความปลอดภัย และความมั่นใจให้นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะจีน พร้อมเยียวยาผู้สูญเสียอย่างเต็มที่ รวมถึงสร้างระบบแจ้งเตือน Emergency Alert ในระดับเขตหรือจังหวัด ขณะเดียวกัน หากเร่งดำเนินนโยบายต่างๆ ตามที่สทท. เสนอ อาทิ เพิ่มฟรีวีซ่าประเทศอื่นๆ ทั้งอินเดีย หรือไต้หวัน, ตั้ง Tourism War Room แก้ข่าวลบ เติมข่าวบวก, เพิ่มโครงการคล้ายเราเที่ยวด้วยกันให้ชาวต่างชาติใช้สิทธิ, ส่งเสริมกลุ่ม Digital Nomad และส่งเสริมไทยเที่ยวไทย ออกนโยบายให้ราชการเที่ยวช่วยชาติในวันธรรมดา เป็นต้น ก็มีโอกาสที่จะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเป็นไปตามเป้า 30 ล้านคนได้ และเพิ่มการท่องเที่ยวในประเทศเข้ามาทดแทน
"เหตุการณ์วานนี้ ผลกระทบจะคล้ายเหตุการณ์ระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ ที่ทำให้นักท่องเที่ยวหายไป 1.33 ล้านคน สูญเสียรายได้ 64,300 ล้านบาท ซึ่งตอนแรกกังวลว่าจะมีผลกระทบระยะยาว แต่ผลกระทบหนักจะอยู่ในช่วงเดือนแรกและประมาณไม่เกิน 4 เดือนก็กลับมาเป็นปกติ ส่วนเหตุกราดยิงที่โคราช ตอนนั้นไม่ได้กระทบภาคท่องเที่ยวมากนักเนื่องจากเป็นช่วงโควิด-19 และบริเวณนั้นไม่ได้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมไป" นายกิตติ กล่าวนายชัยพฤกษ์ ทองคำ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) คาดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อภาคท่องเที่ยวในเรื่องของความเชื่อมั่น ซึ่งคาดว่าจะลากยาวไปอย่างน้อย 3 เดือน หรืออาจถึง 1 ปี เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ โดยเฉพาะชาวจีน
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการประเมินถึงจำนวนนักท่องเที่ยวและมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น แต่มองว่าจะมีผลกระทบในระดับหนึ่ง เนื่องจากนักท่องเที่ยวอาจหลีกเลี่ยงการเที่ยวในพื้นที่เกิดเหตุแทน โดยมองว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาต่ำกว่าเป้าหมาย 30 ล้านคน ที่วางไว้เล็กน้อย อย่างไรก็ดี หากรัฐบาลประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวทราบว่ามีมาตรการรองรับความปลอดภัย และมีการดำเนินการต่างๆ ที่รวดเร็ว หรือมีมาตรการเพิ่มเติม ก็อาจทำให้นักท่องเที่ยวเป็นไปตามเป้าได้
"เมื่อวานถือว่าภาครัฐดำเนินการได้ดี มีการลงพื้นที่ มีมาตรการเยียวยา แต่ก็ต้องใช้เวลาในการเรียกความเชื่อมั่นกลับมา โดยแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ใจกลางเมือง มีความแออัด ควรมีมาตรการป้องกันที่เพิ่มขึ้น มีการคัดกรองเพิ่ม เหมือนที่เคยเกิดเหตุการณ์การระเบิดใจกลางเมือง ที่มีการสกรีนเข้มข้น อาจต้องนำกลับมาใช้ในช่วงแรก เพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับมา ให้นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวได้อย่างสบายใจ" นายชัยพฤกษ์ กล่าว