พาณิชย์ แจงที่มาครม.ขึ้นราคาน้ำตาล ยันต้องสมดุลทั้งผู้บริโภค-ชาวไร่อ้อย

ร.ต.จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ปรับขึ้นราคาน้ำตาลทราย อีกกิโลกรัม (กก.) ละ 2 บาท ว่า เป็นเรื่องที่สืบเนื่องมาจากการประกาศปรับราคาน้ำตาลทราย ของสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เพิ่มขึ้น กก.ละ 4 บาท เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 66 โดยเป็นการปรับตามต้นทุนที่สูงขึ้น 2 บาท ส่วนอีก 2 บาท เป็นการเก็บเงินเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย เพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ลดฝุ่น PM 2.5 จากการเผาอ้อย

ซึ่งเมื่อกระทรวงพาณิชย์ได้รับทราบ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ได้เรียกประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) เป็นการด่วน เพื่อยับยั้งการปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายไว้ก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชน

ต่อมา เมื่อได้พูดคุยกับเกษตรกรชาวไร่อ้อยแล้ว รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ จึงได้ตั้งคณะทำงานบริหารความสมดุลในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล โดยมีนายยรรยง พวงราช ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และชาวไร่อ้อย เข้าร่วมเป็นคณะทำงาน มีการประชุมกัน 2 ครั้ง

โดยได้มีการพิจารณาต้นทุนการผลิต โครงสร้างต้นทุนของ สอน. รวมทั้งต้นทุนของชาวไร่อ้อย พบว่าเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจัยการผลิต เช่น ค่าปุ๋ย ค่าพลังงาน และค่าแรงงาน เป็นต้น ดังนั้น คณะทำงานฯ จึงเสนอให้ปรับขึ้นราคาได้ กก.ละ 2 บาท ส่วนอีก 2 บาท ที่ใช้แก้ปัญหา PM 2.5 นั้น ขอให้กระทรวงอุตสาหกรรม ไปพิจารณาแนวทางที่ไม่เป็นภาระแก่ผู้บริโภคเพียงฝ่ายเดียว และหากจำเป็นก็อาจต้องขอรับการสนับสนุนจากรัฐบาล

นายจักรา กล่าวว่า เมื่อที่ประชุม ครม. วานนี้ (14 พ.ย.) ได้เห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงพาณิชย์แล้ว กรมการค้าภายในได้เสนอคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ทบทวนมาตรการที่เกี่ยวข้องกับสินค้าน้ำตาลทราย โดยกำหนดราคาจำหน่ายสูงสุด ณ หน้าโรงงาน ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. 66 เป็นต้นไป ดังนี้

• น้ำตาลทรายขาว ไม่เกิน กก.ละ 21 บาท จากเดิม ไม่เกิน กก.ละ 19 บาท
• น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ ไม่เกิน กก.ละ 22 บาท จากเดิม ไม่เกิน กก.ละ 20 บาท

ส่วนราคาขายปลีก แม้ไม่ได้กำหนดราคาสูงสุดไว้ แต่ก็ต้องจำหน่ายในราคาที่สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริง อาทิ กรณีห้างค้าส่งค้าปลีกและร้านสะดวกซื้อต่างๆ ที่ขายน้ำตาลทรายบรรจุถุง 1 กก. ในราคา 24-25 บาท เมื่อมีการปรับราคาจากผู้ผลิตขึ้น 2 บาท ราคาขายใหม่ก็ไม่ควรเกิน 26-27 บาท ส่วนร้านค้าทั่วไปอื่นๆ เมื่อมีการปรับขึ้นราคาก็ต้องเป็นไปตามสัดส่วนเดียวกัน

ทั้งนี้ ในเรื่องราคาน้ำตาลทรายนั้น นายภูมิธรรม มีนโยบายให้กำกับดูแลให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้อย่างสมดุล โดยผู้บริโภคไม่รับภาระมากจนเกินไป ขณะเดียวกัน ก็ต้องเห็นใจชาวไร่อ้อย ซึ่งเป็นผู้ผลิตต้นทาง และดูแลให้มีรายได้ที่เหมาะสมสอดคล้องกับต้นทุน