ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 36.10 อ่อนค่าตามภูมิภาค-ไร้ปัจจัยใหม่ คาดต้นสัปดาห์หน้า 35.90-36.20

ข่าวเศรษฐกิจ Friday February 23, 2024 17:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 36.10 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก ช่วงเช้าเปิดตลาดที่ระดับ 35.94 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทอ่อนค่าตามทิศทางสกุลเงินอื่นในภูมิภาค โดยวันนี้ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาชี้นำตลาด โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อน ไหวในกรอบ 35.92 - 36.12 บาท/ดอลลาร์

"ช่วงสายๆ หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศเดือนม.ค. ที่พบว่าขาดดุลการค้าถึง 2.7 พันล้าน ดอลลาร์ ทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงไปบ้าง และในช่วงบ่ายก็อ่อนค่าต่อเนื่อง จากแรงซื้อดอลลาร์ ซึ่งเป็นการอ่อนค่าทั้งภูมิภาค" นักบริหาร เงิน ระบุ

คืนนี้ไม่มีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ แต่สัปดาห์หน้า ต้องติดตามการรายงาน GDP ไตรมาส 4/2566 (ประมาณ การครั้งที่ 2) และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนม.ค.

นักบริหารเงิน คาดว่า ต้นสัปดาห์หน้า เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.90 - 36.20 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 150.73 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 150.43 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0815 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0824 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,398.14 จุด ลดลง 4.33 จุด (-0.31%) มูลค่าการซื้อขาย 48,385.71 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,831.55 ล้านบาท
  • วิจัยกรุงศรี ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยปี 67 จะขยายตัวได้ 2.7% เติบโตตามวัฎจักรเศรษฐกิจ ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไป
คาดว่าจะยังอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องที่ 1.1% ปัจจัยดังกล่าว เพิ่มโอกาสที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย
นโยบายลงตั้งแต่ช่วงกลางปีเป็นต้นไป เพื่อสนับสนุนให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจมีความต่อเนื่อง
  • KKP Research คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยปี 67 จะเติบโตได้ 2.6% ลดลงจากเดิมที่เคยประเมินไว้ที่ 3.7% ซึ่งการ
เติบโตของเศรษฐกิจไทยเริ่มลดต่ำลงจากปัญหาเชิงโครงสร้าง ทั้งนี้ คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะสามารถโตได้ดีขึ้นในช่วงครั้งหลังของปีนี้ เมื่อ
การเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ กลับมาชดเชยการชะลอตัวในช่วงก่อนหน้า และการผลิตภาคอุตสาหกรรม และระดับสินค้าคงคลังกลับ
เข้าสู่ภาวะปกติ
  • กระทรวงพาณิชย์ เผยมูลค่าส่งออกไทยเดือนม.ค. อยู่ที่ 22,649 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปี
ก่อน เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 โดยอัตราการขยายตัวสูงสุดในรอบ 18 เดือน นับตั้งแต่มิ.ย.65 ขณะที่การนำเข้า มีมูลค่า 25,407
ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ในเดือนม.ค. ไทยขาดดุลการค้า 2,757 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ ยกเลิกคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพ.
ค. เนื่องจากถ้อยแถลงของเหล่าผู้กำหนดนโยบายต่างชี้ว่า ยังไม่รีบปรับลดอัตราดอกเบี้ย
  • ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุในวันพฤหัสบดี (22 ก.พ.) ว่า เขาต้องการเห็นหลักฐานมากกว่านี้ว่า เงินเฟ้อ
เริ่มชะลอตัวลงแล้ว จึงจะเต็มใจสนับสนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง
  • รมช.คลังสหรัฐฯ ระบุว่า สหรัฐฯ จะบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตร ต่อเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับรัสเซียมากกว่า 500 เป้า
หมายในวันนี้ (23 ก.พ.) ซึ่งเป็นการดำเนินการที่มีขึ้น หลังจากเพิ่งครบรอบ 2 ปี ที่รัสเซียรุกรานยูเครน
  • นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เปิดเผยว่า การที่ค่าเงินริงกิตของมาเลเซีย ร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 26 ปีในสัปดาห์นี้ เป็น
เรื่องที่น่ากังวล แต่จำเป็นต้องคำนึงถึงภาพรวมของสถานการณ์ด้วย อย่างไรก็ดี การลงทุนในมาเลเซียยังคงอยู่ในระดับสูง อัตราเงินเฟ้อ
และการว่างงานลดลง และมาเลเซียสามารถรักษาระดับการเติบโตของเศรษฐกิจได้ เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน
  • กระทรวงพาณิชย์จีน (MOFCOM) เปิดเผยว่า กระแสการลงทุนจากต่างประเทศเข้าสู่จีน หดตัว 11.7% ในเดือนม.ค.

เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยลดลงสู่ระดับ 1.1271 แสนล้านหยวน (1.566 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ