นายจอห์น ลิปสกี้ รองผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า เศรษฐกิจในทุกภูมิภาคทั่วโลกกำลังชะลอตัวลงในขณะที่อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นซึ่งเป็นผลมาจากราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างไรก็ตาม IMF คาดว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโลกจะไม่เผชิญภาวะ Stagflation (ภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวลงแต่มีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น) แบบเดียวกับที่เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1970 ลิปสกี้กล่าวในที่ประชุม Council on Foreign Relations ซึ่งจัดขึ้นที่นิวยอร์กว่า "แม้ภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวลง แต่ผมและเพื่อนร่วมงานใน IMF ยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกที่ว่า เศรษฐกิจโลกจะยังไม่ถดถอยในระยะนี้" "ปัจจุบัน ราคาสินค้าโภคภัณฑ์พุ่งสูงขึ้นเนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้น แต่ปริมาณที่ผลิตได้ทั่วโลกปรับตัวลดลง โดยเฉพาะราคาพลังงานที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงจนเป็นเหตุให้เศรษฐกิจทั่วโลกได้รับผลกระทบไปด้วย ทั้งนี้แม้สถานการณ์ดังกล่าวไม่ได้หมายความว่าจะทำให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วขึ้น แต่ธนาคารกลางหลายแห่งควรพร้อมที่จะรับมือกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น" ลิปสกี้กล่าว สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน