
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างพิจารณานโยบาย "สลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ" (สลากเกษียณ) หรือเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า "หวยเกษียณ" ซึ่งเป็นนวัตกรรมเชิงนโยบาย ที่รวมเอาพฤติกรรมชอบเสี่ยงดวงของคนไทยมาเป็นแรงจูงใจในการเก็บออม ที่สามารถถอนเงินที่ซื้อสลากทั้งหมดออกมาได้เมื่ออายุครบ 60 ปี
สำหรับ "สลากเกษียณ" มีเป้าหมายเพื่อเข้าไปช่วยแก้ปัญหาการออมของประเทศที่ยังขาดอยู่ ซึ่งทำให้เกิดภาวะสังคมสูงวัยแต่ยากจน แก่แต่ไม่มีเงินเก็บ และนโยบายนี้จะใช้นิสัยของคนไทยที่ชอบเสี่ยงโชค มาเป็นแรงกระตุ้นและแรงจูงใจ
"เป็นการซื้อสลากที่ถูกกฎหมาย มีลักษณะคล้ายสลากออมทรัพย์ แต่ไม่เหมือนกันทีเดียว เพราะเป็นระบบแรงจูงใจรูปแบบใหม่ เป็นการซื้อสลากที่เงินไม่หาย กลายเป็นเงินออมยามเกษียณ ยิ่งซื้อมาก ยิ่งได้ลุ้นมาก และได้เก็บเป็นเงินออมมากขึ้นด้วย" นายเผ่าภูมิ ระบุทั้งนี้ จะดำเนินการผ่านกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ในการออกสลากขูดแบบดิจิทัล ใบละ 50 บาท เพื่อขายให้กับสมาชิก กอช. ผู้ประกันตน มาตรา 40 และแรงงานนอกระบบ ซึ่งมีเป้าหมายประมาณ 16-17 ล้านราย โดยซื้อได้ไม่เกินคนละ 3,000 บาท/เดือน ออกรางวัลทุกวันศุกร์เวลา 17.00 น. ซึ่งผู้ถูกรางวัลจะได้เงินรางวัลทันที โดยที่เงินค่าซื้อสลากจะถูกเก็บเป็นเงินออม แม้ว่าจะถูกรางวัลหรือไม่ก็ตาม
สำหรับเงินรางวัล จะแบ่งเป็น รางวัลที่ 1 มูลค่า 1 ล้านบาท จำนวน 5 รางวัล และรางวัลที่ 2 มูลค่า 1 พันบาท จำนวน 1 หมื่นรางวัล โดยเงินรางวัลอาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม และเงินค่าซื้อสลากทั้งหมด จะเป็นเงินออมของผู้ซื้อสลาก (เงินสะสม) ซึ่งจะนำเงินส่งเข้าบัญชีเงินออมรายบุคคลกับ กอช. โดย กอช. จะเป็นผู้บริหารจัดการเงินจำนวนดังกล่าว และเมื่อผู้ซื้อสลากอายุครบ 60 ปี จะสามารถถอนเงินทั้งหมดที่ซื้อสลากทั้งชีวิตออกมาได้
"นโยบายนี้ อยู่ระหว่างขัดเกลารายละเอียด ต้องใช้เวลาในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย กอช. คาดว่าจะใช้เวลาราว 6 เดือน - 1ปี คงไม่เกิดขึ้นเร็วอย่างแน่นอน แต่จะเร่งรัดให้เร็วที่สุด โดยระหว่างนี้ จะต้องหารือถึงรูปแบบสลาก การออกรางวัล เพื่อให้เกิดความชัดเจนมากที่สุด โดยนโยบายนี้เป็นของพรรคเพื่อไทย ที่ได้ยื่นกับ กกต. ภายใต้นโยบาย "หวยบำเหน็จ" แต่ที่ไม่ใช้ชื่อหวยบำเหน็จ เพราะต้องการให้เกิดความยืดหยุ่น" รมช.คลัง กล่าวส่วนแหล่งเงินที่จะนำมาใช้เพื่อเป็นเงินรางวัลนั้น นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า จะมาจากงบประมาณ โดยเฉลี่ยสัปดาห์ละ 15 ล้านบาท เดือนละ 60 ล้านบาท รวมปีละ 700 กว่าล้านบาทเท่านั้น ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับนโยบายเบี้ยคนชราที่ใช้งบประมาณปีละ 4-5 แสนล้านบาท
พร้อมยืนยันว่า นโยบายดังกล่าว ไม่ได้เป็นการมอมเมาประชาชน แต่เป็นการนำนิสัยของคนไทยที่ชอบเสี่ยงดวง มาผูกกับสิ่งที่ดี คือการออม ที่ยิ่งซื้อมาก ก็ยิ่งออมมาก
อย่างไรก็ดี การออกหวยเกษียณนี้ เป็นการเพิ่มรายละเอียดในกฎหมายของ กอช. ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือ พ.ร.บ.การพนัน แต่อย่างใด