นักวิเคราะห์จากสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด คาดการณ์ว่า สกุลเงินในประเทศเอเชียจะยังคงอ่อนตัวลงอีกในไตรมาส 2 ปีนี้ หากธนาคารกลางในเอเชียไม่สามารถรับมือกับเงินเฟ้อได้ 10 สกุลเงินหลักๆในเอเชียร่วงลงในเดือนนี้ โดยสกุลเงินรูปีของอินเดียและเงินวอนเกาหลีใต้ร่วงลงหนักสุด เนื่องจากราคาน้ำมันและอาหารที่พ่งสูงขึ้นส่งผลให้ตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ สกุลเงินในเอเชียยังอ่อนตัวลงเนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าประเทศเอเชียจะใช้นโยบายสกัดกั้นการแข็งค่าของสกุลเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้น นอกจากนี้ การคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยุติวงจรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นปัจจัยที่หนุนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้น เวนคาตราแมน อนันธา-นาเกสวารัน หัวหน้าฝ่ายวิจัยของธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ในสิงคโปร์กล่าวว่า "เอเชียไม่สามารถสกัดกั้นเงินเฟ้อได้ และนักลงทุนในเอเชียก็ตื่นตระหนกเรื่องเศรษฐกิจสหรัฐมากเกินไป" ค่าเงินรูปีร่วงลงหนักสุดในเดือนที่แล้ว โดยปรับตัวลง 6.1%ต่อดอลลาร์ ขณะที่เงินวอนเกาหลีใต้ดิ่งลง 4.8% และริงกิตมาเลเซียร่วงลง 3.3% ด้านทิโมที เจ บอนด์ นักวิเคราะห์จากเมอร์ริล ลินช์ กล่าวว่า "ปัญหาเงินเฟ้อเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้เศรษฐกิจเอเชียเสี่ยงที่จะชะลอตัวลง หากไม่นับรวมธนาคารกลางสิงคโปร์แล้ว ธนาคารกลางทั่วภูมิภาคเอเชียไม่สามารถรับมือกับภาวะเงินเฟ้อได้เลยเนื่องจากนโยบายการเงินที่หย่อนยาน เมื่อนักลงทุนรับรู้ว่าปัญหาเรื่องเงินเฟ้อยังไม่ได้รับการแก้ไข พวกเขาก็จะกระหน่ำขายทั้งในตลาดหุ้น ตลาดปริวรรตเงินตรา และตลาดพันธบัตร" สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน