ทูตสหรัฐชี้จีน-สหรัฐควรจะผลักดันการค้าเสรีและเลี่ยงระบบปกป้องผลประโยชน์ตนเอง

ข่าวต่างประเทศ Wednesday May 21, 2008 11:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          อลัน โฮลเมอร์ ทูตพิเศษกระทรวงการคลังสหรัฐประจำจีน กล่าวว่า จีนและสหรัฐควรจะส่งเสริมการค้าและการลงทุนแบบเสรี แม้ว่าระบบเศณษฐกิจที่เป็นอิสระของทั้ง 2 ประเทศจะยิ่งกระตุ้นให้เกิดลัทธิการปกป้องผลประโยชน์ของตนเองมากขึ้นใน 2 ประเทศก็ตาม
การแสดงความคิดเห็นดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของนายคาร์ลอส กูเตียร์เรซ รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยนายโฮลเมอร์ได้เตือนว่า ลัทธิการปกป้องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศที่มีจำนวนมากขึ้นทั้งในจีนและสหรัฐ ดังนั้น สหรัฐจึงสนับสนุนให้มีการจัดการเจรจาของเจ้าหน้าที่ระดับสูง เช่น การเจรจาผ่านเวทีการหารือยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ (Strategic Economic Dialogue:SED) เพื่อส่งเสริมให้มีความเข้าใจอันดีซึ่งกันและกันมากยิ่งขึ้น
สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า นายโฮลเมอร์กล่าวที่มหาวิทยาลัยวูชานโดยชี้แจงถึงการตัดสินใจของสหรัฐที่จะยื่นเรื่องร้องเรียนจีนต่อองค์การการค้าโลกว่า การกระทำดังกล่าวไม่ไดสะท้อนว่า ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระดับทวิภาคีของ 2 ประเทศนั้นล้มเหลว
นายโฮลเมอร์กล่าวว่า การค้าและการลงทุนเสรีของ 2 ประเทศนี้เป็นประโยชน์ในระดับพื้นฐานซึ่งกันและกันของ 2 ประเทศ สหรัฐให้คำมั่นว่า จะยังคงรักษาสภาพบรรยากาศการลงทุนแบบเปิดเอาไว้ ซึ่งรวมถึงการลงทุนจากจีนด้วยเช่นกัน โดยมติที่มีมาอย่างยาวนานในเรื่องการสนับสนุนเศรษฐกิจแบบเปิดนั้น ส่งสัญญาณให้เห็นถึงการอ่อนตัวลงใน 2 ประเทศ
ทูตสหรัฐกล่าวว่า ปัจจุบัน จีนเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของสหรัฐ โดยมีการส่งออกสินค้าประเภทต่างๆตั้งแต่เครื่องบิน เครื่องจักรไฟฟ้าไปจนถึงถั่วเหลือง และในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา การส่งออกจากสหรัฐไปยังจีนก็มีปริมาณเพิ่มขึ้นถึง 6 เท่า ซึ่งถือเป็นสถิติการส่งออกที่รวดเร็วกว่าประเทศใดๆ
โฮลเมอร์กล่าวว่า เมื่อปีที่แล้ว จีนได้กลายมาเป็นประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก โดยมีปริมาณการค้าสูงกว่าของญี่ปุ่นและเกาหลีใต้รวมกัน นักลงทุนจีนเดินทางเยือนสหรัฐมากขึ้น เพื่อหาช่องทางการลงทุน ซึ่งเรายินดีที่จีนให้ความสนใจและเชื่อมั่นในเศรษฐกิจของสหรัฐ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ