ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญอื่นๆที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวบ่ายนี้ (29 พ.ค.) โดยเงินดอลลาร์ได้รับปัจจัยหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้น และรายงานตัวเลขสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ดีเกินคาด ซึ่งช่วยคลายความวิตกกังวลต่อเศรษฐกิจในสหรัฐ
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 11.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะที่ 104.84 เยนต่อดอลลาร์จากระดับ 104.74 เยนต่อดอลลาร์ที่ตลาดออสเตรเลียเช้าวันนี้ และจากระดับ 104.70 เยนต่อดอลลาร์ที่ตลาดนิวยอร์กคืนวานนี้ขณะที่เงินยูโรอ่อนค่าลงแตะ 1.5634 ดอลลาร์ต่อยูโรจากระดับ 1.5654 ดอลลาร์ต่อยูโร และจากที่เคลื่อนไหวในระดับ 1.5643 ดอลลาร์ต่อยูโรที่ตลาดนิวยอร์ก
มิโนรุ ชิโอริ นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ กล่าวว่า "รายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีเกินคาดประกอบกับสถานการณ์ด้านราคาน้ำมันดิบที่พุ่งสูงขึ้นทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเพิ่มขึ้น ซึ่งกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อคืนเงินดอลลาร์กันมากขึ้น"
ทั้งนี้ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐขยับลงเพียง 0.5% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบกับที่คาดว่าจะร่วงลง 1.0% โดยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนซึ่งไม่รวมภาคการขนส่งเพิ่มขึ้น 2.5% ซึ่งเป็นระดับที่พุ่งทะยานขึ้นสู.สุดในรอบ 9 เดือน ขณะที่ยอดสั่งซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าถีบตัวสูงขึ้น 27.8%
จอห์น นูนาน นักวิเคราะห์จากธอมสัน ไอเอฟอาร์ มาร์เก็ตส์ก็มีมุมมองในแง่บวกต่อเงินดอลลาร์ด้วยเช่นกันโดยกล่าวว่า "อัตราผลตอบแทนพันธบัตรในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น ขณะที่นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)เริ่มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ และเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มกลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้ง"
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์:
[email protected]