นักวิเคราะห์คาดยอดขาดดุลการค้าสหรัฐเดือนเม.ย.พุ่ง เหตุนำเข้าน้ำมันแพง

          นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐอาจขยายตัวเพิ่มขึ้นในเดือนเม.ย. เนื่องจากต้นทุนน้ำมันที่สูงได้กระตุ้นมูลค่าการนำเข้า
          นักวิเคราะห์ 70 รายจากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ส่วนต่างระหว่างการนำเข้าและการส่งออกจะขยายตัวแตะที่ระดับ 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐจากระดับ 5.82 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนมี.ค. 
          ทั้งนี้ การส่งออกสินค้าไปต่างประเทศถือเป็นจุดที่มีส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจสหรัฐได้บ้างในยามที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐยังอยู่ในภาวะซบเซา ขณะที่การใช้จ่ายผู้บริโภคที่ชะลอตัวลงก็ฉุดรั้งการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
          ไบรอัน เบธูน ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจการเงินของโกลบอล อินไซท์ อิงค์กล่าวว่า "ยอดขาดดุลจากการนำเข้าน้ำมันมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้นการขยายตัวด้านการส่งออกที่แข็งแกร่งจะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสหรัฐต่อไป"
          เศรษฐกิจที่ขยายตัวขึ้นในกลุ่มประเทศเอเชียได้กระตุ้นให้ประเทศเหล่านี้มีอุปสงค์สินค้าต่างๆรวมถึงเครื่องบินเพิ่มมากขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ของบริษัทโบอิ้ง โค ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องบินเชิงพาณิชย์รายใหญ่ที่สุดอันดับสองของโลกคาดว่า อัตราการขยายตัวด้านการส่งออกจะพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 5% ต่อปีซึ่งได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์นอกสหรัฐเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม การส่งออกที่ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปีในเดือนมี.ค.นั้น อาจช่วยประคับประคองให้ภาคการผลิตรอดพ้นจากภาวะชะลอตัว เนื่องจากผู้บริโภคชาวสหรัฐซื้อสินค้าราคาแพงเช่นรถยนต์กันน้อยลง
          สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดขาดดุลการค้าในเวลา 08.30 น.ตามเวลาสหรัฐ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะอยู่ระหว่าง 5.6 - 6.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ