สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) เปิดเผยว่า การควบคุมเม็ดเงินลงทุนที่ครอบคลุมของเวียดนาม และการกำหนดระบบการบริหารจัดการสกุลเงินดองจะช่วยป้องกันมิให้นักลงทุนต่างชาติโยกย้ายฐานการลงทุนไปยังแหล่งลงทุนในต่างประเทศ แม้ในยามที่เวียดนามเผชิญภาวะเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ปิง ชิว นักวิเคราะห์จาก S&P กล่าวว่า เม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติมักถูกตีกรอบไม่ให้เข้าลงทุนในตลาดหุ้นและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ตลาดหุ้นเวียดนามในปีนี้ดิ่งลงไปแล้ว 59% ซึ่งเป็นสถิติการซื้อขายที่ซบเซาที่สุดในโลก ขณะที่เงินดองอ่อนค่าลงหนักที่สุดนับตั้งแต่ปี 2544 ซึ่งดิ่งร่วงลง 3.6% "ขณะนี้เวียดนามยังไม่อยู่ในช่วงที่เป็นวิกฤตการณ์ค่าเงิน" นายชิงกล่าว "เวียดนามมีกระแสเงินเก็งกำไรเข้ามาบ้าง แต่หากถามว่าทางการจะปล่อยให้กระแสเงินเหล่านี้เข้ามาในประเทศจนสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจเอเชียในปี 2540 หรือไม่นั้น ผมไม่คิดว่าจะเป็นอย่างนั้น" ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา S&P ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือสกุลเงินตราประเทศระยะยาวที่ BB โดยมีแนวโน้ม "negative'' โดยกล่าวว่า เศรษฐกิจที่ร้อนแรงนั้นเสี่ยงต่อเสถียรภาพในประเทศ ขณะที่เงินเฟ้อของเวียดนามพุ่งขึ้นแตะที่ 25% ในเดือนพ.ค. เนื่องจากราคาอาหารและพลังงานไต่ระดับขึ้น ขณะที่ยอดขาดดุลการค้าพุ่งขึ้นเป็นสามเท่าในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นักลงทุนต่างชาติได้ปรับลดสัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นช่วงครึ่งปีแรกนี้ถึง 334.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ