กทพ.เสนอเพิ่มราคากลางทางเชื่อมต่อถนนวงเแหวนฯ เป็น 3.1 พันลบ.ตามต้นทุน

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 25, 2008 18:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เสนอขอปรับราคากลางโครงการก่อสร้างทางเชื่อมต่อทางพิเศษสายบางพลี-สุขสวัสดิ์กับถนนวงแหวนอุตสาหกรรมเป็น 3,117 ล้านบาท จากเดิม 2,633 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 484 ล้านบาท เนื่องจากราคากลางเดิมไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงในปัจจุบัน ซึ่งราคาวัสดุ เหล็ก ปูน น้ำมัน ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 
นอกจากนั้น ยังขอปรับเพิ่มเงินชดเชยค่างานก่อสร้างแบบปรับราคาได้ หรือค่าเค ของ 3 โครงการ วงเงิน 221 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างระบบเก็บค่าผ่านทางและระบบควบคุมความปลอดภัยด้านการจราจรของทางพิเศษสายบางพลี-สุขสวัสดิ์ และทางหลวงพิเศษหมายเลข 37 สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร(ตอนบางพลี-บางขุนเทียน ช่วงสุขสวัสดิ์-บางขุนเทียน) ปรับเพิ่มค่าเค วงเงิน 131 ล้านบาท
โครงการก่อสร้างทางเชื่อมต่อทางพิเศษสายบางพลี-สุขสวัสดิ์กับทางพิเศษบูรพาวิถี ปรับเพิ่มค่าเค วงเงิน 43 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างทางเชื่อมต่อทางพิเศษสายบางพลี-สุขสวัสดิ์ กับถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ปรับเพิ่มค่าเค วงเงิน 48 ล้านบาท
"กระทรวงคมนาคมไม่ขัดข้องในการปรับเพิ่มราคากลาง เพราะเป็นการปรับราคาตามราคาวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นจริงในปัจจุบัน และจะเร่งเสนอต่อ ครม.ให้พิจารณาอนุมัติโดยเร็วที่สุด เพื่อที่จะให้โครงการเดินหน้าต่อไป" นายสันติ กล่าว
ขณะเดียวกัน กทพ. ยังเสนอ ครม.ให้อนุมัติจัดซื้ออุปกรณ์จากต่างประเทศ เพื่อนำมาใช้ในการติดตั้งระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติของทางพิเศษเฉลิมมหานคร ฉลองรัช และทางพิเศษรามอินทรา-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครในวงเงิน 425 ล้านบาท
นายสันติ ยังกล่าวถึงแนวทางการปรับขึ้นค่าผ่านทางด่วนขั้นที่ 1 และ 2 ว่า การปรับขึ้นค่าผ่านทางด่วนจะต้องดำเนินการตามสัญญา แต่ในส่วนของภาระภาษีมูลค่าเพิ่มนั้น กระทรวงคมนาคมคงต้องพิจารณาภาระค่าใช้จ่าย และรายได้ของ กทพ. ประกอบกับภาระค่าใช้จ่ายที่จะเพิ่มขึ้นของผู้ใช้ทาง เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าจะให้ กทพ.รับภาระภาษีมูลค่าต่อไปหรือไม่
"กทพ.เสนอให้ผู้ใช้ทางรับภาระภาษีมูลค่าเพิ่ม เหมือนกับค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทั่วไป แต่กระทรวงคมนาคมจะต้องพิจารณารายละเอียดก่อนตัดสินใจ ซึ่งเบื้องต้นเห็นว่าภาระภาษีมูลค่าเพิ่มต้องให้เป็นไปตามธรรมชาติ แต่ต้องดูระยะเวลาการปรับราคาที่เหมาะสมไม่ให้เป็นภาระกับผู้ใช้ทางจนเกินไป" นายสันติ กล่าว
อย่างไรก็ตาม พบว่าประชาชนที่ใช้ทางด่วนเป็นประชาชนอีกระดับ ไม่ใช่รากหญ้า ซึ่งตามนโยบายรัฐบาลต้องการดูแลประชาชนระดับรากหญ้าเป็นหลัก

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ