กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายผู้บริโภคมีการขยายตัว 0.6% ในเดือนมิ.ย. โดยได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการพิจารณาอัตราเงินเฟ้อร่วมด้วย การใช้จ่ายผู้บริโภคจะขยายตัวเพียง 0.2% ในขณะเดียวกัน รายได้ส่วนบุคคลซึ่งเป็นตัววัดการใช้จ่ายในอนาคต มีการขยายตัวราว 0.1% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งถือว่าขยายตัวน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีที่แล้ว ส่วนรายได้หลังหักภาษีของชาวอเมริกันหดตัวลง 1.9% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งถือว่าลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปี 2548 ด้านเงินออมส่วนบุคคล ซึ่งคิดเป็นเปอร์เซนต์เมื่อเทียบกับรายได้หลังหักภาษี อยู่ที่ระดับ 2.5% ในเดือนมิ.ย. ทั้งนี้ การใช้จ่ายผู้บริโภคคิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งหมด และเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งเชื่อว่าการใช้จ่ายผู้บริโภคจะชะลอตัวลงอีกในช่วงหลายเดือนหลังจากนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐกำลังซบเซา อันเป็นผลมาจากปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์และตลาดสินเชื่อ สำนักข่าวซินหัวรายงาน