ฟิลิปปินส์รายงานงบประมาณขาดดุลในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นการรายงานตัวเลขขาดดุลเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน เนื่องจากรัฐบาลเพิ่มสัดส่วนการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจและเพื่อช่วยชาวฟิลิปปินส์รับมือกับภาวะเงินเฟ้อ          แกรี เตเบส รัฐมนตรีคลังฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า รัฐบาลมียอดขาดดุลงบประมาณอยู่ที่ 1.54 หมื่นล้านเปโซ (399 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งส่งผลให้ตัวเลขขาดดุลงบประมาณในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้พุ่งขึ้นแตะที่ 3.34 หมื่นล้านเปโซ          "ตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่า รัฐบาลเต็มใจที่จะจ่ายเงินเพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจในยามที่ฟิลิปปินส์เผชิญกับความไม่แน่นอน" ซอง เซง วัน นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ CIMB-GK Securities Pte ในสิงคโปร์กล่าว          ด้านนางกลอเรีย อาร์โรโย่ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ได้กล่าวให้คำมั่นเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาว่าจะกระตุ้นการลงทุนและเพิ่มเงินอุดหนุนข้าวและสินค้าอื่นๆมากขึ้น โดยลดความสำคัญของแผนการกำหนดงบประมาณสมดุลในปีนี้ ทั้งนี้ เตเบสกล่าวว่า รัฐบาลอาจมีตัวเลขขาดดุลงบประมาณปี 2551 อยู่ในช่วง 4.0-7.5 หมื่นล้านเปโซ           ทั้งนี้ รัฐบาลคาดว่า การขยายตัวด้านการส่งออกในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะชะลอตัวลงมาอยู่ระหว่าง 5.7-6.5% ในปีนี้ จากระดับ 7.2% ในปี 2551 เนื่องจากราคาอาหารและน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นได้บั่นทอนตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นแตะระดับ 12.2% ในเดือนก.ค.ซึ่งเป็นสถิติการขยายตัวสูงสุดในรอบ 16 ปี