"หม่อมอุ๋ย"คาด H2 ส่งออกชะลอ แนะดึงบริโภคภายใน-สินค้าเกษตรดัน ศก.โตต่อ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 20, 2008 17:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง มองแนวโน้มการส่งออกช่วงครึ่งปีหลังจะชะลอตัวลงจากครึ่งปีแรก เนื่องจากตลาดหลักทั้งสหรัฐญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป(EU) นำเข้าสินค้าไทยลดลงหลังประสบภาวะเศรษฐกิจถดถอย ประกอบกับทุกประเทศทั่วโลกต่างเผชิญหน้ากับปัญหาเศรษฐกิจ โดยสินค้าที่ได้รับผลกระทบแล้ว เช่น สินค้าไอทีจากจีน, ไต้หวัน และสิงคโปร์ ที่สามารถส่งออกได้น้อยลง
ดังนั้นรัฐบาลจำเป็นต้องหันมาพึ่งการบริโภคภายในประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชดเชยการส่งออก โดยมุ่งรักษาราคาสินค้าเกษตร 5 ชนิด ได้แก่ ข้าว, มันสำประหลัง, อ้อย, ปาล์มน้ำมัน และยางแผ่นดิบ ให้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะเมื่อสินค้าเกษตรราคาดี เกษตรกรจะมีรายได้มาใช้จ่ายมากขึ้น และส่งผลต่อภาพรวมของเศรษฐกิจไทย
"ช่วง 6 เดือนแรก ทุกประเทศทั่วโลกต่างเผชิญปัญหาเศรษฐกิจ แต่ไทยโชคดีที่ได้อานิสงส์จากราคาสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น จนทำให้เศรษฐกิจขยายตัวถึง 5.8-5.9% ซึ่งสูงมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ดังนั้นรัฐบาลต้องผลักดันราคาสินค้าเกษตรให้สูงต่อเนื่อง เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง เพราะยอดส่งออกจะลดลงจากครึ่งปีแรก" ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวปาฐกถาเรื่อง "อนาคตเศรษฐกิจไทย ฝ่ายวิกฤตได้อย่างไร" ในงานครบรอบ 88 ปี กระทรวงพาณิชย์
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า ช่วงนี้รัฐบาลควรฉวยโอกาสปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไปด้วย โดยลดการพึ่งพาจากนอกประเทศ และกระตุ้นการบริโภคภายในแทนเหมือนสหภาพยุโรปที่มีมูลค่าส่งออกเพียง 20% ของจีดีพี ขณะที่ไทยสูงถึง 70% ของจีดีพี ซึ่งไทยจำเป็นต้องปรับให้ภาคการบริโภคเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 30% มาอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับภาคการส่งออก
"ปีนี้รายได้ภาคเกษตรโต 50-60% โตมากกว่ารายได้ภาคอุตสาหกรรม ถือเป็นตัวช่วยสำคัญของเศรษฐกิจไทยอย่างแท้จริง รัฐบาลต้องช่วยให้เกษตรกรมีรายได้แบบนี้ เพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ถ้าทำให้เป็นแบบวันนี้ ต่อไปอีก 3 ปี เศรษฐกิจไทยจะกลับมาได้" ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าว
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า ช่วงครึ่งปีหลังจะเกิดปัญหาเงินเฟ้อขยายตัวในระดับสูงรอบ 2 ซึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันแพงที่ยังคงส่งผลต่อเนื่องต่อต้นทุนผลิตสินค้า และจะส่งผลกระทบทำให้สินค้ามีราคาเพิ่มสูงขึ้น โดยคาดว่าเงินเฟ้อจะสูงในระดับ 7-9% ไปจนถึงสิ้นปี แต่เชื่อว่าปัญหาไม่น่าจะรุนแรง เพราะราคาน้ำมันได้ปรับตัวลดลงแล้ว
ด้านนายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ มั่นใจว่าการส่งออกของไทยในปีนี้ยังขยายตัวได้เกิน 15% และเป็นไปได้อาจจะสูงถึง 18-20% เพราะเงินบาทอ่อนค่าลง และการขยายตัวในตลาดส่งออกใหม่ยังสูง โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอาหารและสินค้าเกษตร

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ