นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)กล่าวว่า สศช.ยังตั้งเป้าหมายอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 51 ที่ 5.5% โดยมองว่าสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้จะยังไม่มีผลต่อภาพรวมในขณะนี้ แต่น่าจะส่งผลอย่างชัดเจนในปีหน้า หากเหตุการณ์ยืดเยื้อต่อไปอีก แม้ว่าจะมีความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุนต่างประเทศต่อเหตุการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ โดยเฉพาะเงินทุนที่ไหลออกจากตลาดหลักทรัพย์หรือการหดตัวในภาพรวม ผลกระทบภาคการท่องเที่ยว แต่ปัจจัยต่าง ๆ ดังกล่าวจะยังไม่ส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจในปีนี้มากนัก โดยเชื่อว่าความเชื่อมั่นต่อการลงทุนที่ลดลงจะกระทบกับฐานเศรษฐกิจใน ปี 52 อย่างไรก็ตาม สศช.จะสอบถามตัวเลขที่ชัดเจนจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจครั้งหน้าก่อนจะมีการประเมินภาพเศรษฐกิจ "เศรษฐกิจผ่านมา 8 เดือน อัตราลดลงคงเป็นไปไม่ได้ แต่เศรษฐกิจโดยเฉพาะฐานการลงทุนในภาคการส่งออก ภาคการเกษตร และประสิทธิภาพการผลิต ในปีหน้าจะได้รับผลกระทบแน่นอน เศรษฐกิจจะดิ่งตัวลงจากปัญหาการเมืองหากมีการหยุดการลงทุน หรือถอนการลงทุน"เลขาธิการ สภาพัฒน์ กล่าว