ประธาน ส.อ.ท.มองแนวทางทำประชามติสายเกินแก้-สิ้นเปลืองงบประมาณ

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 8, 2008 12:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ระบุไม่เห็นด้วยกับแนวทางการทำประชามติของรัฐบาลเพื่อเป็นทางออกของวิกฤติทางการเมืองในปัจจุบัน เนื่องจากจะล่าช้าไม่ทันต่อสถานการณ์ เพราะต้องใช้เวลาดำเนินการค่อนข้างนาน อีกทั้งทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณเกือบ 2,000 ล้านบาท และผลที่ออกมาก็อาจไม่เป็นที่ยอมรับจากทุกฝ่าย
ทางออกที่ดีที่สุด คือ การหันหน้ามาเจรจาร่วมกันทุกฝ่าย เพราะหากปล่อยให้ปัญหายืดเยื้ออาจจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจและการลงทุน ซึ่งในเบื้องต้นผลกระทบจากปัญหาการเมือง และการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการท่องเที่ยว ทำให้ยอดการสั่งจองห้องพักในโรงแรมทั่วประเทศถูกยกเลิกเกือบ 20% แล้ว
และในอนาคตอาจกระทบกับภาคอุตสาหกรรม เช่น กรณีสหภาพแรงงานการท่าเรือแห่งประเทศไทยหยุดให้บริการ ทำให้สินค้าค้างส่งออกไม่ได้ และการนำเข้าชะลอตัวลง เพราะต่างประเทศมีความกังวลกับสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย โดยหากยังคงยืดเยื้ออาจเป็นผลให้บริษัทต่างชาติสั่งออร์เดอร์จากที่อื่นแทน และขณะนี้มีต่างชาติสอบถามว่าไทยยังคงผลิตและส่งออกได้ตามคำสั่งซื้อหรือไม่เข้ามาบ้างแล้ว
ประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจของไทยในปัจจุบันยังไม่เข้าข่ายภาวะสูญญากาศ แต่เป็นแค่การชะลอตัวของภาคลงทุนในระยะสั้นเท่านั้น โดยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลประกาศออกมาเพิ่มเติมจะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งเพื่อดูว่าสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากน้อยแค่ไหน
อย่างไรก็ตาม การที่เงินบาทอ่อนค่าลงมาอยู่ระดับ 34-35 บาท/ดอลลาร์ถือเป็นผลดีต่อการส่งออก โดยเฉพาะภาคการเกษตร แต่ห่วงการนำเข้าสินค้าจะสูงขึ้น โดยเฉพาะน้ำมันที่มีปริมาณความต้องการใช้ของประชาชนไม่มีแนวโน้มลดลง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ