กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐในเดือนก.ค.ปรับตัวสูงขึ้น 5.8% แตะที่ระดับ 6.22 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2550 เนื่องจากสหรัฐมียอดการนำเข้าและส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ตัวเลขขาดดุลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐในเดือนก.ค.สูงขึ้นจากระดับ 5.88 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนมิ.ย.เมื่อเทียบกับที่มีการประมาณการณ์ในก่อนหน้านี้ 5.68 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยยอดส่งออกสินค้าและบริการของสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.3% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.681 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ยอดนำเข้าของสหรัฐเพิ่มขึ้น3.9% จากเดือนมิ.ย. แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกันที่ระดับ 2.303 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ยอดขาดดุลการค้าสินค้าและบริการในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 4.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมียอดส่งออกทะยานขึ้น 20.1% คิดเป็นเงิน 2.82 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนยอดนำเข้าสูงไต่ระดับขึ้น 16.8% อยู่ที่ระดับ 3.30 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ สหรัฐมีตัวเลขขาดดุลรวมที่ระดับ 4.198 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 4.157 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
เมื่อปีที่แล้ว ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลงไปอยู่ที่ 7.003 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งดีขึ้นเป็นปีแรกหลังจากที่สหรัฐมียอดขาดดุลติดต่อกันนาน 5 ปี
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่า ยอดขาดดุลการค้าจะหดตัวลงต่อเนื่องในปีนี้ เนื่องจากการส่งออกได้รับอานิสงส์ที่ดีจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ซึ่งทำให้ราคาสินค้าถูกลง และทำให้ตลาดต่างประเทศหลายแห่งมีการแข่งขันกันมากขึ้น
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์:
[email protected]