สมาชิกสภาคองเกรสซึ่งเคยลงคะแนนเสียงคัดค้านมาตรการแก้ไขวิกฤตการเงินสหรัฐเมื่อต้นสัปดาห์มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนมาสนับสนุนมาตรการดังกล่าวในการประชุมวันศุกร์นี้ หลังจากที่มีสัญญาณบ่งชี้ว่า วิกฤตที่เกิดขึ้นในวอลล์สตรีทกำลังลุกลามออกไปเรื่อยๆ ทั้งนี้ สมาชิกสภาคองเกรสอย่างน้อย 8 คน ซึ่งรวมถึงซัค แวมป์ จากพรรครีพับลิกัน และเอ็มมานูเอล คลีเวอร์ จากพรรคเดโมแครตกล่าวว่า จะให้การสนับสนุนมาตรการดังกล่าว ขณะที่สมาชิกคองเกรสอีก 4 รายกล่าวว่า ตนเองอาจจะเปลี่ยนจุดยืนในการลงคะแนนเสียงก่อนที่รองเกรสจะประชุมเพื่อลงมติในแผนดังกล่าวอีกครั้งในเวลาประมาณ 12.30 น. วันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐ กฎหมายดังกล่าวจะเปิดทางให้รัฐบาลสหรัฐเข้าซื้อสินทรัพย์ที่มีปัญหาจากสถาบันการเงินที่ได้รับผลกระทบจากการยึดสินทรัพย์ที่ขาดการผ่อนชำระบ้านที่สูงเป็นประวัติการณ์ รวมทั้งมาตรการตั้งสำรอง การลดภาษี 1.49 แสนล้านดอลลาร์ การจำกัดวงเงินประกันเงินฝากที่สูงขึ้น และการเปลี่ยนแปลงกฎหมายหลักทรัพย์ นอกจากนี้ กฎหมายที่รอการอนุมัติดังกล่าวยังได้ย้ำถึงอำนาจของหน่วยงานที่จะระงับกฎระเบียบในการประเมินมูลค่าสินทรัพย์ที่ผู้บริหารบริษัทต่างโทษว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้วิกฤตรุนแรงมากขึ้น โดยวุฒิสภาสหรัฐได้ลงมติรับรองกฎหมายดังกล่าวด้วยคะแนนเสียง 74 ต่อ 25 เจมส์ ไคลเบิร์น ประธานวิปของสภาคองเกรส กล่าวว่า ผมรู้สึกดีมากเกี่ยวกับจุดยืนของเราเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว ขณะที่ส.ส.จิม เกอร์ลาช ซึ่งก่อนหน้านี้ลงคะแนนเสียงคัดค้านแผนการดังกล่าวก็มีแนวโน้มว่าจะเปลี่ยนใจมาลงคะแนนเสียงสนับสนุนมาตรการ เนื่องจากฐานเสียงของตนเองที่ฟิลาเดเฟียได้ออกมาผลักดันให้คองเกรสลงมติรับรองกฎหมายกู้วิกฤตการเงิน หลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงถึง 778 จุดหลังจากที่คองเกรสลงมติคัดค้านกฎหมายเมื่อวันที่ 29 ก.ย. บลูมเบิร์กรายงาน