ธปท.ยันไม่เห็นสัญญาณสภาพคล่องมีปัญหา/เงินยังไหลออกสุทธิแม้ spreadเพิ่ม

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday October 9, 2008 17:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นางผ่องเพ็ญ เรืองวีระยุทธ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงินและบริหารเงินสำรอง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)กล่าวว่า ยังไม่เห็นสัญญาณใด ๆ ที่บ่งชี้ว่าสภาพคล่องในระบบการเงินไทยจะมีปัญหา โดย ณ สิ้น ก.ค. 51 ไทยมีสภาพคล่องทั้งหมด 1,497,826 ล้านบาทและเป็นสภาคล่องส่วนเกินที่นำมาใช้ได้จริง 1,097,123 ล้านบาท
ทั้งนี้ การดำรงสภาพคล่องดังกล่าวเป็นไปตามข้อกำหนดของ ธปท.ที่ให้สถาบันการเงินตั้งสำรองสภาพคล่องจากเงินฝากและสินเชื่อ ซึ่งสัดส่วนที่จะต้องดำรงเงินตามกำหนดอยู่ที่ 400,703 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3.7% ของสินทรัพย์ที่จะต้องดำรงสภาพคล่อง ถือว่ายังมีสภาพคล่องส่วนเกินสูงมาก
นอกจากนั้น หากพิจารณาจากดอกเบี้ยที่เป็นเครื่องมือชี้วัดความตึงตัวของสภาพคล่องในระบบ โดยเฉพาะอินเตอร์แบงก์ ก็พบว่ายังเกาะอยู่ในระดับเดียวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของทางการ
แต่นางผ่องเพ็ญ ยอมรับว่าสภาพคล่องในระบของธนาคารพาณิชย์ตึงตัวบ้างเล็กน้อย เนื่องจากเงินฝากขยายตัวน้อยกว่าสินเชื่อ เพระช่วงที่ผ่านมามีผู้ฝากย้ายเงินฝากไปลงทุนในสินทรัพย์อื่น
อย่างไรก็ตาม ไทยคงจะไม่มีปัญหาสภาพคล่องหดตัวกระทันหัน เนื่องจากปัจจุบัน ธปท.ยังคงปล่อยเงินคืนเข้าไปในระบบตามปกติวันละ 3-5 แสนล้านบาทผ่านหลายช่องทางทั้งพันธบัตร ธุรกรรม swap และการรับเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ โดยขณะนี้ ธปท.มียอดคงค้างที่จะต้องดูดเงินในระบบเข้ามา ณ สิ้น ก.ค.ประมาณ 2.5 ล้านล้านบาท ซึ่งลดลงจากในอดีตที่อยู่ในระดับ 2.9 ล้านล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ธปท.ยืนยันว่ายังไม่เคยต้องอัดฉีดเงินเข้าระบบเพื่อดูแลปัญหาสภาพคล่องแต่อย่างใด
นอกจากนั้น ยังเชื่อว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ credit crunch หรือการไม่ปล่อยกู้ของสถาบันการเงิน เนื่องจากปัจจุบันธนาคารพาณิชย์ยังคงปล่อยกู้ให้กันผ่านอินเตอร์แบงก์ และทำธุรกิจ swap ระหว่างกันตามปกติ
นางผ่องเพ็ญ กล่าวว่า การที่ธนาคารกลางของหลายชาติร่วมมือกันลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉินเมื่อคืนนี้ ขณะที่ไทยยังคงอัตราดอกเบี้ยในระดับเดิม ไม่ได้เป็นแรงกดดันให้เงินทุนไหลเข้ามาในประเทศ แต่กลับยังมีเงินไหลออกสุทธิ ส่งผลทำให้เงินบาทผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังให้น้ำหนักความเสี่ยงการลงทุนมากกว่าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย เพราะต้องขายสินทรัพย์ส่งเงินกลับไปเสริมสภาพคล่องให้กับบริษัทแม่
อย่างไรก็ตาม หากไทยถูกเรียกคืนหนี้ต่างประเทศระยะสั้นในขณะนี้ ก็ยังมีทุนสำรองมากเพียงพอที่จะดูแลไม่ให้เกิดปัญหาต่ออัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากทุนสำรองของประเทศต่อหนี้ระยะสั้นสูงถึง 409.60% โดย ณ สิ้นไตรมาส 2/51 ไทยมีหนี้ต่างประเทศทั้งหมด 66,703 ล้านดอลลาร์ หนี้ระยะสั้น 25,800 ล้านดอลลาร์ และหนี้ระยะยาว 40,902 ล้านดอลลาร์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ