ตัวเลขจ้างงานออสเตรเลียพุ่งสูงเกินคาดในเดือนต.ค.2551 ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นสัญญาณที่ดีอันเป็นผลจากการปรับลดภาษีเงินได้, การปรับลดอัตราดอกเบี้ย และการอัดฉีดสภาพคล่องของรัฐบาล รวมถึงการส่งออกไปยังตลาดจีนที่อาจช่วยประคับประคองเศรษฐกิจในประเทศได้ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก
สำนักงานสถิติออสเตรเลียเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานปรับตัวสูงขึ้น 34,300 ตำแหน่ง หลังจากที่ลดลง 3,300 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดว่าจะร่วงลง 10,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานทรงตัวในระดับเดิมที่ 4.3%
โดยตัวเลขของจำนวนพนักงานฟูล-ไทม์ปรับลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ที่ระดับ 9,200 ตำแหน่ง แต่อัตราการจ้างงานในส่วนของพนักงานพาร์ท-ไทม์พุ่งสูงขึ้น 43,500 ตำแหน่งจากระดับเดือนก.ย. การส่งออกถ่านหินและสินแร่เหล็ก ซึ่งช่วยกระตุ้นยอดเกินดุลการค้าในเดือนก.ย.นั้นอาจช่วยหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้แม้สหรัฐ อังกฤษและญี่ปุ่นจะเผชิญภัยคุกคามจากภาวะถดถอย ขณะที่นายเกล็น สตีเว่นส์ ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 2% นับตั้งแต่ต้นเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสถิติการหั่นดอกเบี้ยหนักที่สุดนับตั้งแต่เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอยเมื่อปี 2534
เคร็ก เจมส์ นักวิเคราะห์จาก Commonwealth Bank of Australia กล่าวว่า ออสเตรเลียยังสามารถฝ่าแรงต้านของภาวะขาลงทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี ซึ่งรัฐบาลกำลังใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่สำคัญเพื่อกอบกู้ระบบเศรษฐกิจ และจะยิ่งเดินหน้านโยบายเชิงรุกมากขึ้นอีกในอนาคต หลังจากที่ได้ใช้จ่ายส่วนเงินดุลงบประมาณในการช่วยเหลือด้านเงินบำนาญ ผู้ซื้อบ้านและครอบครัวชาวนิวซีแลนด์เป็นวงเงิน 1.04 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (7.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ขณะที่มาตรการปรับลดอัตราการจัดเก็บภาษีเงินได้ครั้งประวัติศาสตร์จะเริ่มบังคับใช้ในเดือนก.ค. ซึ่งจะช่วยกระตุ้นตัวเลขการใช้จ่ายในรอบ 12 เดือนที่สิ้นสุด ณ เดือนมิ.ย.2552 ให้เพิ่มขึ้นอีก 5.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 11:44 น.ตามเวลาท้องถิ่น เงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น 67.79 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 67.62 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย