รัฐบาลสิงคโปร์หั่นเงินเดือนนายกฯ"หลี่ เซี่ยน หลุง" 19% มุ่งรับมือวิกฤตการเงินโลก

ข่าวต่างประเทศ Tuesday November 25, 2008 14:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รัฐบาลสิงคโปร์ออกแถลงการณ์ว่า เงินเดือนของนายกรัฐมนตรีหลี่ เซี่ยน หลุง จะถูกปรับลดลง 19% เหลือเพียง 3.04 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปีหน้า เนื่องจากรัฐบาลจำเป็นต้องลดเงินเดือนข้าราชการพลเรือนเพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์การเงินที่ลุกลามไปทั่วโลก

แถลงการณ์ระบุว่า เงินเดือนของรัฐมนตรีใหม่ๆที่จะเข้ารับตำแหน่งในปีหน้า จะถูกปรับลดลง 18% เหลือเพียง 1.57 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ และเงินเดือนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะถูกปรับลดลง 16% เหลือเพียง 190,000 ดอลลาร์สิงคโปร์

รัฐบาลสิงคโปร์ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจถึง 4 ครั้งในปีนี้ โดยระบุว่าเศรษฐกิจของประเทศอาจหดตัวลงในปีหน้า ซึ่งส่งผลให้รัฐบาลสิงคโปร์ตัดสินใจใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่ เทมาเส็ค โฮลดิ้ง ซึ่งเป็นกองทุนบริหารความมั่งคั่ง (SWF) ของสิงคโปร์ เปิดเผยว่า ผู้จัดการอาวุโสของเทมาเส็คเต็มใจที่จะปรับลดเงินเดือนตัวเองลงมากถึง 25% พร้อมกับเตือนว่าเศรษฐกิจโลกในปีหน้าอาจถดถอยรุนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้

กระทรวงพาณิชย์สิงคโปร์รายงานว่า เศรษฐกิจสิงคโปร์จะขยายตัว 2.5% ในปีนี้ ซึ่งน้อยกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อเดือนต.ค.ว่าจะขยายตัว 3% และน้อยกว่าอัตราการขยายตัวในปี 2550 โดยเศรษฐกิจสิงคโปร์ที่เข้าสู่ภาวะถดถอยแล้วมีแนวโน้มจะหดตัวลงอีกสูงสุด 1% ในปีหน้า ซึ่งถือเป็นการหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2544

ที่ผ่านมานั้น นายลี กวน ยู อดีตนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์พยายามปกป้องเงินเดือนของข้าราชการ โดยเขากล่าวในหนังสืออัตชีวประวัติของตนเองที่ชื่อว่า “From Third World to First" ว่า การตั้งเงินเดือนรัฐมนตรีและข้าราชการที่ต่ำเกินไปจะสร้างความเสียหายต่อรัฐบาลในเอเชีย

หนังสือพิมพ์สเตรทส์ ไทม์สรายงานว่า นายกรัฐมนตรีหลี่ เซี่ยน หลุง ของสิงคโปร์ มีอัตราเงินเดือนสูงที่สุดในบรรดาผู้นำทั่วโลก โดยข้อมูลจากทำเนียบขาวระบุว่าประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช แห่งสหรัฐ มีรายได้เพียง 719,274 ดอลลาร์/เดือน ซึ่งรวมถึงเงินเดือนที่ได้รับในฐานะประธานาธิบดีและเงินที่ได้จากการลงทุนในกองทุนทรัพสต์ ขณะที่นายโดนัลด์ ซัง ประธานเขตปกครองพิเศษฮ่องกงมีรายได้ 334,758 ดอลลาร์ฮ่องกง (518,000 ดอลลาร์สหรัฐ)/ปี เท่านั้น สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ