สำนักข่าวอันทารารายงานว่า จำนวนชาวอินโดนีเซียที่ถูกปลดออกจากงานตั้งแต่ช่วงเดือนม.ค.-พ.ย.ปีนี้พุ่งขึ้นแตะ 15,000 ราย จากผลกระทบของวิกฤตเศรษฐกิจ
ผอ.ฝ่ายกิจการด้านสวัสดิการสังคมของอินโดนีเซียเปิดเผยว่า จำนวนของพนักงานที่ถูกปลดออกจากงานมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่อยู่ในขั้นวิกฤตโดยกล่าวว่า "เราหวังว่าตัวเลขดังกล่าวจะไม่เพิ่มขึ้นอีก แต่หากสถานการณ์ต่างๆยังไม่ดีขึ้น จำนวนผู้ที่ถูกปลดออกจากงานก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย"
โดยขณะนี้รัฐบาลกำลังจับตาความเคลื่อนไหวในหลายๆจังหวัดเพื่อประเมินสถานการณ์ของบริษัทต่างๆและผลกระทบจากวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้น
ก่อนหน้านี้ ทางสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมของอินโดนีเซียได้ประเมินว่า วิกฤตการเงินจะกดดันให้มีคนงานราว 200,000 คนกลายเป็นผู้ว่างงานใน 6 เดือนข้างหน้า พร้อมทั้งชี้ว่าภาคธุรกิจเอกชนเริ่มเผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบาก โดยบริษัทหลายแห่งอาจรายงานตัวเลขผลกำไรที่ติดลบในเดือนธ.ค.
ทั้งนี้ หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ภาคธุรกิจได้รับผลกระทบมาจากสถานการณ์ของเงินรูเปียห์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ โดยเฉพาะเงินดอลลาร์สหรัฐ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เงินรูเปียห์อ่อนค่าลงแตะที่ 12,000 ดอลลาร์/รูเปียห์