ฤดูกาลจับจ่ายซื้อสินค้าช่วงวันหยุดของสหรัฐได้เริ่มต้นขึ้นแล้วด้วยยอดค้าปลีกที่เพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อน ขณะผู้คนทั่วสหรัฐได้ออกมาช็อปสินค้าอย่างคึกคักเนื่องจากบรรดาร้านค้าได้เปิดให้บริการเร็วขึ้นและแข่งกันจัดโปรโมชั่นต่างๆเพื่อดึงดูดลูกค้า
โดย ShopperTrak RCT บริษัทวิจัยในชิคาโกซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยธุรกิจค้าปลีกมานาน 20 ปี กล่าวว่า ร้านค้าต่างๆสามารถทำยอดขายเฉลี่ยเบื้องต้นสำหรับวัน "แบล็ค ฟรายเดย์" หรือวันศุกร์หลังวันขอบคุณพระเจ้า ได้รวมทั้งสิ้น 1.06 หมื่นล้านดอลลาร์
วันศุกร์หลังวันขอบคุณพระเจ้า ได้ชื่อว่า Black Friday เนื่องจากเป็นวันที่ร้านค้าต่างๆสามารถทำกำไรได้อย่างเป็นกอบเป็นกำจากยอดขาย โดยปกติแล้ว "แบล็ค ฟรายเดย์" เป็นวันที่ประชนออกมาจับจ่ายเลือกซื้อของขวัญกันมากที่สุดวันหนึ่งของปี อย่างไรก็ดี ในปีนี้ ร้านค้าไม่ค่อยมั่นใจว่าจะทำกำไรได้มากเท่ากับปีก่อนๆ เพราะต่างก็ลดราคาสินค้ามากกว่าทุกปีเพื่อโน้มน้าวให้ลูกค้ายอมควักเงินจากกระเป๋าท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่บีบให้พวกเขาต้องรัดเข็มขัด
ShopperTrak เตือนว่า แม้ฤดูช็อปปิ้งปีนี้จะเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับบรรดาห้างร้านต่างๆ แต่ก็ไม่มีอะไรรับประกันว่ายอดขายจะทำให้ยิ้มได้ตลอดช่วงสุดสัปดาห์นี้