(เพิ่มเติม) ธปท.พร้อมคิดนอกกรอบ-กดดอกเบี้ยต่ำฟื้นศก.แนะ รบ.ใหม่ใช้มาตรการระยะสั้น

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 16, 2008 10:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางอัจนา ไวความดี รองผู้ว่าการ ธปท. สายเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กล่าวว่า ธปท.พร้อมคิดนอกกรอบและใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อดูแลไม่ให้ลงลึกไปยาวนานกว่าเดิม หลังจากกหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะการชุมนุมปิดสนามบินทั้ง 2 แห่ง ทำให้ภาวะเศรษฐกิจไตรมาส 4/51 ชะลอตัวลงมาก

ขณะที่รัฐบาลก็ควรจะเร่งสร้างความเชื่อมั่นเพื่อให้กลไกทางเศรษฐกิจเดินไปได้ตามปกติ พร้อมกับใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น แทนที่จะเร่งเดินหน้าโครงการเมกะโปรเจ็คต์ที่มีผลต่อเศรษฐกิจช้ากว่า และไม่ดำเนินนโยบายที่สร้างภาระต่อนโยบายการคลังในระยะยาว

"ทางการพร้อมที่จะคิดนอกกรอบเพื่อไม่ให้เศรษฐกิจลงลึกยาวกว่าเดิม ทั้งนี้การสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นมีความสำคัญมากกว่า เราเชื่อว่าทางการจะมีสมาธิในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ไม่ใช่มุ่งแก้ไขปัญหาการเมือง" นางอัจนา กล่าวในการสัมมนา"นโยบายการเงินกับวิกฤติเศรษฐกิจ"

สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศมีผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ รวมทั้งกระทบการท่องเที่ยวและการส่งออกของไทย ทำให้เศรษฐกิจในระยะที่ผ่านมาชะลอตัวมากกว่าที่คาด ดังนั้น คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงถึง 1% นั้น ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้มาก

แต่การลดดอกเบี้ยดังกล่าวอาจจะไม่ส่งผลต่อภาคเศรษฐกิจที่แท้จริงเลยหากความเชื่อมั่นของภาคเอกชนและภาคธุรกิจไม่กลับมาจากปัญหาการเมืองที่ไร้เสถียรภาพ แม้ว่าธปท.จะพร้อมใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อกระตุ้นการขยายตัวเศรษฐกิจ เพราะอัตราเงินเฟ้อไม่เป็นปัญหาอีกต่อไปแล้ว และการใช้จ่ายงบประมาณคงจะไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

นางอัจนา กล่าวอีกว่า ธปท.ยังไม่แน่ใจนักว่าเศรษฐกิจของโลกจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังปี 52 อย่างที่มีผู้คาดการณ์ไว้ เพราะยังมีหลายฝ่ายเกรงว่าสหรัฐฯ จะยังเกิดปัญหาวิกฤติภาคการเงิน ภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง และปัญหาฟองสบู่ในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อาจจะทำให้ไม่เห็นการฟื้นตัวในปี 52 ก็ได้ และอาจเห็นเศรษฐกิจโลกซึมยาว ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่กนง. ตัดสินใจลดดอกเบี้ยถึง 1%

สำหรับการตอบสนองของบรรดาธนาคารพาณิชย์ในการลดดอกเบี้ยนั้น หลายธนาคารลดดอกเบี้ยลงไม่เท่ากัน ขึ้นกับสภาพคล่องและต้นทุนของแต่ละธนาคาร แต่การลดดอกเบี้ยช่วยลดปัญหาหนี้ด้อยคุณภาพ(เอ็นพีแอล)และลดภาระการผ่อนชำระของลูกหนี้ได้บ้าง

นางอัจนา กล่าวว่า กลไกการส่งผ่านดอกเบี้ยสู่ภาคเศรษฐกิจที่แท้จริงต้องใช้เวลา ซึ่งจะมีผลต่อการบริโภคและการลงทุน แต่สิ่งสำคัญคือต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ภาคธุรกิจว่าแบงก์ชาติพร้อมใช้นโยบายการเงินดูแลการเติบโตของเศรษฐกิจ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ