เกาหลีใต้เผยบัญชีเดินสะพัดเกินดุลติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนพ.ย.

ข่าวต่างประเทศ Tuesday December 30, 2008 10:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เกาหลีใต้เผยบัญชีเดินสะพัดเกินดุลเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนพ.ย. ซึ่งช่วยบรรเทาความตึงเครียดให้กับเงินวอนซึ่งเป็นสกุลเงินที่ย่ำแย่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียสำหรับปีนี้

ธนาคารกลางเกาหลีใต้รายงานว่า ตัวเลขบัญชีเดินสะพัดเกินดุลขยายตัวแตะ 2.06 พันล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. จาก 1.67 พันล้านดอลลาร์ในเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว การที่บัญชีเดินสะพัดอยู่ในภาวะเกินดุลหมายความว่ามีเงินดอลลาร์สหรัฐไหลเข้าประเทศมากกว่าไหลออก ส่งผลให้ความต้องการเงินวอนมีมากขึ้น โดยในเดือนต.ค.เกาหลีใต้มีบัญชีเดินสะพัดเกินดุลมากสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.75 พันล้านดอลลาร์

เงินวอนแข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 สัปดาห์หลังมีการเปิดเผยรายงานดังกล่าว ในขณะเดียวกันก็แข็งค่ารวม 21% จากระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปีเมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางซื้อเงินวอนเพื่อช่วยรักษาสมดุลของบัญชีงบดุลก่อนที่จะมีการยื่นบัญชีในช่วงสิ้นปี และหลังจากที่รัฐบาลลงนามข้อตกลงการทำสวอปกับสหรัฐ จีน และญี่ปุ่น เพื่อเปิดช่องทางเข้าถึงเงินดอลลาร์

"สถานการณ์โดยรวมดูดีขึ้นเมื่อเรามีบัญชีเดินสะพัดเกินดุลอีกครั้งในเดือนพ.ย." ชุน ชอง วู นักเศรษฐศาสตร์ระดับสูงจากเอสซี เฟิร์สท์ แบงค์ โคเรีย กล่าว "หากเรายังมีบัญชีเดินสะพัดเกินดุลอย่างต่อเนื่อง เงินวอนก็จะมีเสถียรภาพขึ้นเรื่อยๆ และจะไม่ย่ำแย่เช่นในปัจจุบันอีกแล้ว"

การที่เงินวอนอ่อนค่าอย่างหนักเมื่อต้นปีส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า รัฐบาลอาจขอความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) หลังจากที่ขอความช่วยเหลือครั้งสุดท้ายเมื่อ 10 ปีที่แล้วในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจในเอเชีย

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีลี เมียง บัค คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจเกาหลีใต้อาจหดตัวในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า ซึ่งจะถือเป็นภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งแรกในรอบ 10 ปี

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 11.09 น.ตามเวลาโซล เงินวอนเกาหลีใต้แข็งค่า 0.6% แตะ 1,257.75 วอนต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยในปีนี้เงินวอนแข็งค่าเพียง 26% ซึ่งถือว่าย่ำแย่สุดในภูมิภาค ด้านดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวสูงขึ้น 1.7%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ