ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของนิวซีแลนด์ย่ำแย่ลงเนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับผลประกอบการภาคเอกชน หลังเศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย ส่งผลให้การส่งออกและการใช้จ่ายผู้บริโภคลดลง
สถาบันวิจัยเศรษฐกิจนิวซีแลนด์เผยว่า จากการสำรวจเมื่อไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว บริษัทกว่า 64% เชื่อว่าเศรษฐกิจจะทรุดลงอีกในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ทั้งที่เมื่อไตรมาส 3 มีบริษัทเพียง 19% ที่คิดเช่นนั้น
เศรษฐกิจนิวซีแลนด์เข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี หลังเศรษฐกิจโลกชะลอตัวจนส่งผลให้การลงทุนภาคธุรกิจและการใช้จ่ายผู้บริโภคลดลงอย่างหนัก รัฐบาลนิวซีแลนด์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะไม่ฟื้นตัวจนกว่าจะถึงปีหน้า ดังนั้นจึงเตรียมใช้มาตรการลดภาษีเงินได้ รวมถึงลงทุนในโครงการสร้างถนนและโรงเรียนเพื่อกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศ
"เศรษฐกิจอยู่ในสภาพย่ำแย่ตลอดปีที่ผ่านมา และในช่วงครึ่งแรกของปีนี้เราจะรู้สึกถึงผลกระทบของมันอย่างเต็มที่" คูน โกห์ นักเศรษฐศาสตร์จาก ANZ National Bank Ltd. ในเวลลิงตัน กล่าว "หลายบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลกำไรลงอย่างมาก แสดงให้เห็นว่าบริษัทเหล่านั้นกำลังได้รับแรงกดดันอย่างหนัก"สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 11.45 น.ตามเวลาเวลลิงตัน เงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนค่าลงแตะ 57.33 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์นิวซีแลนด์ จาก 57.73 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์นิวซีแลนด์ก่อนที่จะมีการเปิดเผยรายงานนี้ ส่วนดัชนี NZX 50 ปรับตัวลดลง 1.3% แตะ 2,733.54 จุด