บาร์เคลย์ส แคปิตอล คาดดอลล์ไต้หวันร่วงหนักหลังเศรษฐกิจชะลอตัว

ข่าวต่างประเทศ Tuesday January 13, 2009 11:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บาร์เคลย์ส แคปิตอล คาดการณ์ว่า สกุลเงินดอลลาร์ไต้หวันจะอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจไต้หวันชะลอตัวลง นอกจากนี้ การที่ธนาคารกลางทั่วโลกปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะเป็นปัจจัยบวกต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยเมื่อวานนี้ ดอลลาร์ไต้หวันร่วงลง 0.2%เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดเงินไทเป "เราคาดว่าดอลลาร์ไต้หวันจะร่วงลงหนักสุดในบรรดาสกุลเงินหลักๆของเอเชียในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่มีแนวโน้มชะลอตัวลงอีกในปีนี้" เดวิด วู หัวหน้านักวิเคราะห์ด้านการเงินของบาร์เคลย์ส แคปิตอล กล่าว

ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกส่งผลให้ความต้องการสินค้าจำพวกคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือของไต้หวันปรับตัวลดลง ซึ่งทำให้ผลประกอบการของบริษัทส่งออกไต้หวันทรุดตัวลง โดยกระทรวงการคลังไต้หวันรายงานว่า ยอดส่งออกเดือนธ.ค.ของไต้หวันร่วงลง 42% ซึ่งเป็นสถิติที่ร่วงรุนแรงสุดเป็นประวัติการณ์

นอกจากนี้ ความต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยสหรัฐและไต้หวัน และการที่ธนาคารกลางทั่วโลกพากันลดดอกเบี้ย ยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติต้องการถือครองสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐมากกว่าดอลลาร์ไต้หวัน โดยเมื่อเดือนที่แล้วธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลงสู่ช่วง 0-0.25%

เมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา ธนาคารกลางไต้หวันประกาศลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานลง 0.5% สู่ระดับ 1.5% ซึ่งเป็นครั้งที่หกนับตั้งแต่เดือนก.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากยอดส่งออกที่ร่วงลงมากเป็นประวัติการณ์ส่งผลให้เกิดความหวั่นวิกตกว่า เศรษฐกิจของไต้หวันจะเข้าสู่ภาวะถดถอย

ยอดส่งออกของไต้หวันร่วงลงอย่างหนักในเดือนที่แล้ว โดยผู้ผลิตของประเทศ อาทิ Nan Ya Plastics Corp. บริษัทแปรรูปพลาสติกรายใหญ่สุดของโลกรายงานยอดขายที่ดิ่งลงถึง 57% ในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ อัตราว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้น และเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มจะย่ำแย่ลงอีกก็เป็นสาเหตุที่ทำให้แบงก์ชาติไต้หวันตัดสินใจลดดอกเบี้ยในครั้งนี้

ไต้หวันปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2552 ลงเหลือ 2.12% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 5.08% และคาดว่า มูลค่าส่งออกในปีนี้จะร่วงลง 9.59% เมื่อคิดคำนวณในรูปสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งเป็นสถิติที่ปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 8 ปี สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ