นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า จะหารือกับผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ว่าจะดำเนินการอย่างไรกับงบประมาณที่ได้รับการจัดสรร 1,000 ล้านบาท จากงบกลางปีของรัฐบาล 1.16 แสนล้านบาท โดยต้องนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุดและเห็นว่าควรจะนำไปใช้ในการบรรเทาผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจและปัญหาคนว่างงานก่อน
สำหรับสาเหตุที่กระทรวงพาณิชย์ได้งบประมาณน้อยกว่าที่เสนอขอไปนั้น เพราะเป็นการจัดงบประมาณรูปแบบใหม่ คือ ใช้งบประมาณร่วมกันหลายหน่วยงานตามภารกิจที่มี เช่น การจัดโรดโชว์สร้างความเชื่อมั่นของประเทศต้องให้หน่วยงานต่างๆ มาใช้งบเดียวกัน ทั้งกรมส่งเสริมการส่งออก, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.), สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI), กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงวัฒนธรรม
นอกจากนี้ ยังมีงบประมาณที่จะใช้แก้ไขปัญหาคนว่างงานที่กระทรวงพาณิชย์สามารถจะเข้าไปร่วมใช้ได้อีก เพราะกระทรวงพาณิชย์ก็มีโครงการแก้ปัญหาคนว่างงานด้วยเช่นกัน
แหล่งข่าว กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ขอรับการจัดสรรงบประมาณกลางปีจากรัฐบาลเพื่อใช้กระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ และส่งเสริมการส่งออกให้ขยายตัวเป็นบวก 3-5% รวมทั้งสิ้น 12,000 ล้านบาท แยกเป็น โครงการส่งเสริมและผลักดันการส่งออก 3,000 ล้านบาท และอีก 9,000 ล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ทั้งการช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชน, การช่วยเหลือสินค้าเกษตร, การช่วยแก้ปัญหาคนตกงาน และการสร้างธุรกิจรายใหม่
แต่จากการพิจารณางบกลางปีของคณะรัฐมนตรีกลับได้รับการจัดสรรเพียง 1,000 ล้านบาทเท่านั้น ทำให้แผนการจัดทำโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของกระทรวงพาณิชย์ต้องสะดุดลงทันที โดยโครงการที่จะได้รับผลกระทบอย่างชัดเจนคือ โครงการส่งเสริมการส่งออก ที่ตั้งเป้าหมายขยายตัว 3-5% ภายใต้เงื่อนไขว่าต้องได้รับการจัดสรรงบ 3,000 ล้านบาท เพื่อดำเนินมาตรการเสริมผลักดันการส่งออก ควบคู่ไปกับมาตรการหลักที่ดำเนินการอยู่แล้ว ดังนั้นอาจทำให้การส่งออกไทยปีนี้ขยายตัวติดลบได้
ขณะที่การช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชน, การช่วยเหลือพืชเกษตรก็จะทำได้น้อยลงและมีข้อจำกัดมากขึ้น ส่วนการช่วยแก้ไขปัญหาคนว่างงานจากวิกฤตเศรษฐกิจก็จะทำได้ไม่คล่องตัวนัก