รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค.ปี 2551 ของญี่ปุ่นร่วงลง 2.7% เหลือเพียง 13.03 ล้านล้านเยน (1.44 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักสุดในรอบเกือบ 4 ปี และเป็นสถิติที่ปรับตัวลงติดต่อกันยาวนานถึง 4 เดือน เนื่องจากผู้บริโภควิตกกังวลที่ภาคเอกชนลดการจ้างงานและค่าแรงพนักงาน จึงพากันลดการใช้จ่าย
มาซามิช อาดาชิ นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกน กล่าวว่า "ข้อมูลยอดค้าปลีกครั้งล่าสุดสะท้อนให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยในญี่ปุ่นกำลังส่งผลกระทบทั้งในด้านการจ้างงานและภาคครัวเรือน ซึ่งบีบให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายในการซื้ออาหาร เสื้อผ้า และเครื่องใช้ภายในบ้าน อีกทั้งสะท้อนให้เห็นว่ายอดค้าปลีกของสินค้าประเภทต่างๆทรุดตัวลงถ้วนหน้า ซึ่งตอกย้ำว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยของญี่ปุ่นอาจยืดเยื้อออกไปอีก"
ดีมานด์สินค้าทั่วโลกที่ปรับตัวลดลงส่งผลให้บริษัทญี่ปุ่นลดกำลังการผลิตและลดคนงาน โดยนักวิเคราะห์คาดว่าบริษัท โซนี่ คอร์ป จะเปิดเผยตัวเลขขาดทุนเป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปี นอกจากนี้ บริษัท เจ ฟรอนท์ รีเทลลิ่ง ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกชั้นนำของญี่ปุ่นวางแผนที่จะลดจำนวนห้างในพื้นที่ตอนเหนือและตอนกลางของญี่ปุ่น สำนักข่าวเอพีรายงาน