เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อเทียบกับเงินยูโรในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวเช้านี้ จากกระแสคาดการณ์ว่าทั่วโลกจะมีหลักฐานที่บ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่ชะลอตัวลงมากขึ้น ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยง
เงินยูโรอ่อนค่าลงหนักสุดเมื่อเทียบกับเงินเยนในรอบ 3 เดือนหลังจากนายจอร์จ โซรอส นักลงทุนมหาเศรษฐีเปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ Der Standard ของออสเตรียว่า สกุลยูโรอาจไม่สามารถอยู่รอดได้ หากสหภาพยุโรปไม่มีแผนการที่จะรับมือกับหนี้เสีย
ขณะเดียวกันค่าเงินเยนของญี่ปุ่นอาจพุ่งสูงขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ออสเตรเลีย เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวได้กระตุ้นให้นักลงทุนเปลี่ยนมาซื้อสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนต่ำ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 10.04 น.ตามเวลาโตเกียว เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะที่ 1.2898 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.2954 ยูโร/ดอลลาร์ ขณะที่เงินดอลลาร์ลดลงสู่ระดับ 89.58 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 90.03 เยน/ดอลลาร์ ส่วนเงินยูโรอ่อนค่าสู่ระดับ 115.43 เยน/ยูโรจากระดับ 116.60 เยน/ยูโร
โดยในเดือนนี้ เงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับ 11 สกุลเงินจาก 16 สกุลเงินหลักๆที่ซื้อขายกันในตลาดปริวรรตเงินตรา ซึ่งโซรอสกล่าวว่า ทั่วโลกจำเป็นต้องทำข้อตกลงร่วมกันเพื่อหาวิธีแบ่งเบาภาระขาดทุน และทุกประเทศควรมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหานี้ มิฉะนั้นผลกระทบจะยิ่งบานปลายไปสู่หลายประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะหากกลุ่มประเทศยุโรปไม่ทำอะไรสักอย่าง เงินยูโรจะไม่รอดพ้นจากวิกฤตต่างๆไปได้"
นายทซึโตมุ โซมะ นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ Okasan Securities Co. กล่าวว่า "นักลงทุนหลายรายใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบพื้นฐาน ซึ่งหมายความว่าพวกเขานำเงินกลับเข้าไปซื้อเงินเยนและดอลลาร์"