ไดวา ซิเคียวริตีส์ กรุ๊ป องค์ บริษัทโบรกเกอร์รายใหญ่อันดับ 2 ของญี่ปุ่น เผยขาดทุนรายไตรมาสหนักสุดในรอบกว่า 7 ปี หลังธุรกิจธนาคารเพื่อการลงทุนซบเซา
โดยบริษัทขาดทุน 5.3 หมื่นล้านเยน (593 ล้านดอลลาร์) ในไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2551 ซึ่งย่ำแย่กว่าปีก่อนหน้าที่ทำกำไรได้กว่า 1.73 หมื่นล้านเยน และย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้จะขาดทุนราว 2.38 หมื่นล้านเยน
ก่อนหน้านี้บริษัทคู่แข่งรายสำคัญอย่าง โนมูระ โฮลดิงส์ อิงค์ ก็เพิ่งประกาศตัวเลขขาดทุนในไตรมาสเดียวกัน หลังวิกฤตการเงินโลกฉุดตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งตลอดไตรมาสดังกล่าว โดยดัชนี MSCI World Index ร่วงลงกว่า 22% ในขณะที่ปริมาณการซื้อขายต่อวันในตลาดหุ้นโตเกียวก็ร่วงลงกว่า 33%
"วิกฤตการเงินส่งผลกระทบอย่างหนักในไตรมาสดังกล่าว" โนบุยูกิ อิวาโมโตะ หัวหน้าฝ่ายการเงินของบริษัทกล่าว "ตลาดเริ่มฟื้นตัวขึ้นตามลำดับ แต่ก็ยังขาดเสถียรภาพอยู่ดี"ในขณะเดียวกัน รายได้ของไดวาร่วงลงกว่า 68% เหลือ 3.85 หมื่นล้านเยนในไตรมาสดังกล่าว นอกจากนั้นยังขาดทุนจากการซื้อขายรวม 2.28 หมื่นล้านดอลลาร์ ทั้งที่มีกำไรกว่า 4.17 หมื่นล้านเยนในปีก่อนหน้า
นอกจากนั้นแล้ว ไดวา ซีเคียวริตีส์ เอสเอ็มบีซี ธุรกิจการธนาคารเพื่อการลงทุนของไดวาซึ่งควบรวมกิจการกับบริษัท ซูมิโตโม่ มิตซุย ไฟแนนเชียล กรุ๊ป อิงค์ ก็ขาดทุนกว่า 7.89 หมื่นล้านเยนในไตรมาสดังกล่าว หลังจากที่ทำกำไรได้กว่า 3.6 พันล้านเยนในปีก่อนหน้า สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน