ยอดส่งออกของเกาหลีใต้ร่วงลงหนักสุดเป็นประวัติการณ์ 32.8% ในเดือนม.ค. บ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจที่จะเลวร้ายลงอีกในอนาคต
กระทรวงเศรษฐกิจเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ยอดส่งออกร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่ปี 2500 และร่วงลงเกือบ 2 เท่าจากระดับที่ลดลง 17.9% ในเดือนธ.ค. และยังทรุดตัวลงหนักกว่าที่นักวิเคราะห์จากโพลล์ของบลูมเบิร์กคาดการณ์ไว้ที่ 29.1% ขณะที่ยอดนำเข้าตกลง 32.1% ส่งผลให้ตัวเลขขาดดุลการค้าในเดือนม.ค.อยู่ที่ 2.97 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ยอดส่งออกที่ซบเซาเป็นเครื่องบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจกำลังเดินหน้าเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินในเอเชียเมื่อ 10 ปีก่อน และภาวะดังกล่าวจะยิ่งสร้างแรงกดดันต่อเจ้าหน้าที่กำหนดนโนบายในการเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและปรับลดดอกเบี้ยมากขึ้น นอกจากนี้ โค มิน จิน โฆษกของปอสโค ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่อันดับสามในเอเชียเปิดเผยว่า บริษัทจะเพิ่มการปรับลดกำลังการผลิตเป็นครั้งที่ 3 ในเดือนกุมภาพันธ์นี้
ชัน ชง วู นักวิเคราะห์จาก Standard Chartered First Bank Korea Ltd. ในกรุงโซลกล่าวว่า "เราไม่สามารถรอดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกไปได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางจำเป็นต้องดำเนินมาตรการต่างๆเพิ่มมากขึ้นเพื่อป้องกันเศรษฐกิจมิให้เผชิญภาวะตื่นตระหนกจากทั่วโลก"
ทั้งนี้ ยอดส่งออกไปยังประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ดิ่งลง 32.2% ในช่วง 20 วันแรกของเดือนม.ค. ส่วนยอดส่งออกไปยังสหรัฐร่วงลง 21.5% ขณะที่ยอดส่งออกไปยุโรปตกลง 46.9% และตัวเลขส่งออกไปอเมริกาทรุดตัวลง 36% ด้านยอดส่งออกไปตะวันออกกลางปรับตัวลดลง 7.5% โดยมียอดส่งออกอุปกรณ์ในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ที่ดิ่งลง 47% ในเดือนม.ค.จากปีก่อน และยอดส่งออกสินค้าในกลุ่มยานยนต์ตกลง 55% ขณะที่ยอดส่งออกเรือเพิ่มขึ้น 20%
อย่างไรก็ตาม เกาหลีใต้ได้จัดสรรเงินประมาณ 140 ล้านล้านวอน (1.01 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อใช้เป็นเงินเสริมสภาพคล่อง และเป็นเงินปรับลดภาษีและการใช้จ่าย ขณะที่ธนาคารกลางปรับลดดอกเบี้ยลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์