บริษัทญี่ปุ่นหลายแห่งต่างเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการเทขายเงินเยน เนื่องจากสถานการณ์เงินเยนที่แข็งค่าจะทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นเผชิญภาวะถดถอยครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2488
มาซากาซุ คูโบตะ กรรมการผู้จัดการของ Keidanren กล่าวให้สัมภาษณ์ว่า "ภาวะเงินเยนแข็งค่านับเป็นปัญหาสำคัญที่สุดสำหรับกลุ่มผู้ส่งออก ดังนั้นรัฐบาลจึงควรลงมือทำอะไรสักอย่างเพื่อสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเยน ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ภาคการส่งออกต้องการมากที่สุด"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 10.16 น.ตามเวลาโตเกียว เงินเยนเคลื่อนไหวที่ระดับ 89.76 ต่อดอลลาร์จากระดับ 89.92 ต่อดอลลาร์ โดยในปีที่แล้วเงินเยนแข็งค่าขึ้น 19% และเคลื่อนไหวขึ้นไปแตะที่ 87.13 ต่อดอลลาร์เมื่อเดือนที่แล้ว
"ภาคการส่งออกต้องการให้เงินเยนอ่อนค่าลงมาอยู่ในช่วง 100-100 ต่อดอลลาร์ ซึ่งระบบเศรษฐกิจของญี่ปุ่นพึ่งพากลุ่มส่งออกยานยนต์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เป็นอย่างมาก" เขากล่าวทั้งนี้ ญี่ปุ่นมียอดส่งออกในเดือนธ.ค.ที่ทรุดลงอย่างฮวบฮาบจากปีก่อน ซึ่งส่งผลให้บริษัทหลายแห่งปรับลดกำลังการผลิตลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์
ประธานบริษัทหลายแห่งอาทิ Keidanren และฮอนด้าโคได้เรียกร้องให้รัฐบาลยื่นมือเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราที่รัฐบาลปล่อยให้การซื้อขายดำเนินไปตามกลไกของตลาดมานานเกือบ 5 ปี โดยทางกระทรวงการคลังได้ขายเงินเยน 14.8 ล้านล้านเยน (1.65 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2547 ซึ่งขณะนั้นเงินเยนเคลื่อนไหวที่ราว 103 ดอลลาร์/เยน
ด้านฮอนด้าได้ปรับลดคาดการณ์ผลกำไรตลอดทั้งปีลง 57% เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเทียบเคียงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินเยนที่ 96 ต่อดอลลาร์ จากระดับ 113 ต่อดอลลาร์ในปีที่แล้ว ซึ่งเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นทุกๆ 1 เยนจะบั่นทอนผลกำไรประจำปีของฮอนด้าลง 1.8 หมื่นล้านเยน
ขณะที่ฮิตาชิคาดการณ์ว่า ในปีนี้บริษัทจะขาดทุน 7 แสนล้านเยน ส่วนเอ็นอีซี ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลรายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นจะปลดพนักงานกว่า 20,000 ตำแหน่ง และคาดว่าบริษัทจะประสบภาวะขาดทุนเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี