เงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียว เนื่องจากกลุ่มผู้ส่งออกกลับเข้ามาซื้อคืนเงินเยนกันมากขึ้นหลังจากที่สกุลเงินดังกล่าวดิ่งลงหนักสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อวานนี้
ขณะเดียวกันเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงจากปัจจัยลบที่ว่า ในคืนนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขว่างงานที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 16 ปีที่ 7.5% ในเดือนม.ค. ขณะที่อัตราจ้างงานลดลง 540,000 ตำแหน่ง นอกจากนี้ เศรษฐกิจสหรัฐมีสัญญาณบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ
โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เปิดเผยวานนี้ว่า ผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)ของสหรัฐจะหดตัวลง 1.6% ในปีนี้ ขณะที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะติดลบ 2.6% และเศรษฐกิจในยุโรปจะตกต่ำลง 2%
นอกจากนี้ เงินเยนยังแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินยูโร หลังจากที่นายฌอง คล้อด-ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรปส่งสัญญาณหั่นดอกเบี้ยลงอีกในเดือนหน้าเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจในยุโรป
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 11.29 น.ตามเวลาในประเทศไทย เงินเยนของญี่ปุ่นพุ่งขึ้น 90.97ดอลลาร์/เยน จากระดับ 91.23 ดอลลาร์/เยน ขณะที่เงินเยนไต่ระดับขึ้นสู่ 116.33 ยูโร/เยน จากระดับ 116.63 ยูโร/เยน
ด้านเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวแตะที่ 1.2794 ดอลลาร์/ยูโรจากระดับ 1.2790 ดอลลาร์/ยูโร ส่วนเงินปอนด์พุ่งขึ้นสู่ระดับ 1.4629 ดอลลาร์/ปอนด์จาก 1.4610 ดอลลาร์/ปอนด์
ยูจิ ไซโตะ นักวิเคราะห์จากโซซิเอเต เจเนอราล เอสเอ กล่าวว่า "กลุ่มผู้ส่งออกกลับเข้ามาซื้อคืนเงินเยนที่อ่อนค่าลงอย่างหนักเมื่อวานนี้ หลังจากที่รอให้เงินเยนดิ่งลงอยู่ในระดับต่ำเพื่อจะที่เข้าซื้อสินทรัพย์ดังกล่าวได้ในราคาถูก" ทั้งนี้ เงินเยนพุ่งแข็งค่าขึ้น 17% นับตั้งแต่สิ้นเดือนก.ย.เป็นต้นมา ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวได้กัดกร่อนรายได้จากกลุ่มผู้ส่งออกหลายรายเช่น โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ซึ่งคาดว่าจะประสบภาวะขาดทุนครั้งแรกในรอบ 71 ปี