ธนาคารกลางไต้หวันประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากเศรษฐกิจหดตัวเกินความคาดหมายถึง 8.36% ในไตรมาสสี่ ซึ่งเป็นผลมาจากการส่งออกและการลงทุนในภาคธุรกิจซบเซาอย่างหนัก
เผิง ไฟ-หนาน ผู้ว่าการธนาคารกลางไต้หวัน และคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคาร ได้ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานสู่ระดับ 1.25% จากเดิมที่ 1.5% ซึ่งนับเป็นการปรับลดดอกเบี้ยครั้งที่ 7 ตั้งแต่เดือนก.ย.2551
สำหรับสาเหตุหลักที่ทำให้แบงก์ชาติไต้หวันตัดสินใจลดดอกเบี้ยในครั้งนี้ เป็นเพราะผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ได้ร่วงลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการเก็บข้อมูลในปีพ.ศ. 2495 และทรุดลงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
นอกจากนี้ ธนาคารยังคาดการณ์ด้วยว่า เศรษฐกิจไต้หวันจะหดตัวลง 2.97% ในปี 2552 สวนทางกลับการประเมินเมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมาว่า จะขยายตัว 2.12%
บลูมเบิร์กรายงานว่า นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ยุคฟองสบู่แตกปี 2544 ที่เศรษฐกิจไต้หวันเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยสาเหตุของเศรษฐกิจถดถอยครั้งนี้มาจากการที่เศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกได้ส่งผลให้ความต้องการสินค้าส่งออกของไต้หวันลดลงมาก
ทั้งนี้ นายเผิงกล่าวว่า ธนาคารกลางจะอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหากบรรดาธนาคารและสถาบันการเงินของไต้หวันไม่สามารถปล่อยสินเชื่อให้บริษัทต่างๆเอาไปดำเนินธุรกิจได้