ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองภาพรวมของเศรษฐกิจไทยในปี 52 มีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจไทยอาจต้องเผชิญกับอัตราการขยายตัวที่ติดลบของการใช้จ่ายภาคเอกชนพร้อมๆ กับการหดตัวสูงเป็นตัวเลขสองหลักของภาคส่งออก โดยคาดการณ์กรอบการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ไว้ในกรอบหดตัว 1.5% ถึงขยายตัว 0.2% เทียบกับที่ขยายตัว 2.6% ในปี 2551 ขณะที่การหดตัวของมูลค่าการส่งออกของไทยในปีนี้อาจอยู่ในกรอบประมาณ 10.0-16.0% เทียบกับที่ขยายตัว 16.8% ในปี 2551
ตัวเลขเศรษฐกิจเดือน ม.ค.52 ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) แถลงต่อสาธารณชนสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยยังคงจะเผชิญกับภาวะซบเซาอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการทรุดตัวลงในอัตรารุนแรงที่สุดในประวัติการณ์ของการส่งออก และการใช้จ่ายในประเทศ ทั้งทางด้านการลงทุนและการบริโภค
"ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดเดือนมกราคม 2552 ของ ธปท.ยังคงตอกย้ำให้เห็นถึงสภาวะที่เปราะบางของเศรษฐกิจไทยที่ไม่อาจหลีกหนีแนวโน้มการชะลอตัวลงอย่างรุนแรงของเศรษฐกิจทั่วโลกซึ่งกำลังได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจและการเงินในรอบนี้" เอกสารเผยแพร่ ระบุศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า อุปสงค์ในประเทศทั้งการบริโภคและการลงทุนซึ่งจะยังคงมีแนวโน้มซบเซาอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรกของปี 2552 นั้นเป็นโจทย์ที่ท้าทายและอาจทำให้ภาครัฐต้องเร่งผลักดันเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจพร้อมๆ ไปกับเร่งเบิกจ่ายวงเงินจากงบประมาณให้เข้าสู่ระบบอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเครื่องชี้ด้านการใช้จ่ายในประเทศยังคงมีสัญญาณที่อ่อนตัวอย่างชัดเจน แม้จะมีแรงหนุนจากระดับราคาโดยรวมที่อาจทรงตัวในระดับต่ำต่อเนื่องก็ตาม
ขณะที่การส่งออกของไทยยังคงมีแนวโน้มหดตัวเป็นตัวเลขสองหลักอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรกของปี 2552 โดยภาคส่งออกของไทยจำต้องเผชิญกับผลกระทบจากภาวะถดถอยอย่างรุนแรงของประเทศคู่ค้าหลัก ทั้งกลุ่ม G-3 และประเทศในแถบเอเชีย