สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเป็นวันที่สองติดต่อกันเมื่อวานนี้ (6 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมองว่าตลาดทองคำเป็นแหล่งการลงทุนทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าหุ้นและพันธบัตรรัฐบาล ในยามที่สถานการณ์ในตลาดหุ้นยังไร้เสถียรภาพ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 942.70 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 14.90 ดอลลาร์ หรือ 1.6% หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 930.60 - 945.50 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดที่ 13.333 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 21.3 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 3.55 เซนต์ ปิดที่ 1.6890 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,078.70 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 14.10 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ปิดที่ 204.00 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 3.70 ดอลลาร์
โดยวานนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนก.พ. ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 25 ปีที่ 8.1% ขณะที่ตัวเลขจ้างงานลดลง 651,000 ตำแหน่ง ส่งผลให้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดลบ
ทอม ฮาร์มันน์ นักวิเคราะห์ตลาดโภคภัณฑ์ บ.อัลตาเวสต์ เวิลด์ไวด์ เทรดดิ้ง ในแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า ข้อมูลตัวเลขที่อ่อนแอและเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนทำให้นักลงทุนหวนกลับมาสู่ตลาดทองอีกครั้ง
ด้านเอเดรียน เดย์ ประธานบ.เอเดรียน เดย์ส แอสเส็ท แมเนจเมนท์ ในแมรี่แลนด์ กล่าวว่า ทองกำลังถูกผลักดันจากความกังวลเกี่ยวกับระบบการเงินและการขาดความเชื่อมั่นในตลาดปริวรรตเงินตรา ซึ่งความกังวลต่างๆเหล่านี้กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น
อย่างไรก็ดี สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นักวิเคราะห์บางรายเชื่อว่า ราคาทองจะปรับตัวสูงขึ้นไม่มากนัก หากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เพราะโดยทั่วไป ราคาทองจะเคลื่อนตัวผกผันกับค่าเงิน