รัฐมนตรีเศรษฐกิจไต้หวันยืนยันว่าจะไม่มีการควบรวมบริษัทผลิตเมโมรีชิปในประเทศโดยการนำของรัฐบาล ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่ารัฐบาลกำลังถอนตัวจากแผนปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ซึ่งมีมูลค่ากว่า 2.36 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่กลับประสบปัญหาไม่สามารถทำกำไรได้
"การควบรวมบริษัทเหล่านั้นโดยสิ้นเชิงและในทันทีเป็นสิ่งที่ซับซ้อนและยากเกินไป" หยิน จี-หมิง รัฐมนตรีเศรษฐกิจ กล่าว
นายหยินเป็นอีกคนที่ไม่เห็นด้วยกับแผนการนี้ โดยก่อนหน้านี้ จอห์น ฉวน ผู้ได้รับการแต่งตั้งให้ดูแลบริษัท ไต้หวัน เมโมรี ซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อรองรับแผนการควบรวมกิจการ ก็ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับแผนการดังกล่าว
ก่อนหน้านี้กระทรวงเศรษฐกิจกล่าวว่ารัฐบาลอาจทำการควบรวมธุรกิจในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งบริษัทผลิตเมโมรีชิป 6 แห่งในประเทศจะถูกควบรวมเป็นหนึ่งเดียวภายใต้ชื่อ “Big Bang"
"รัฐบาลเริ่มต้นด้วยแผนสุดอลังการ แต่ตอนนี้รัฐบาลต้องตระหนักได้แล้วว่าความฝันกับความจริงมันต่างกันมาก" บีแวน หยี จากบริษัท พรูเดนเชียล ไฟแนนเชียล ซีเคียวริตีส์ อินเวสเมนท์ ทรัสท์ เอนเตอร์ไพรส์ ในไทเป กล่าว "การเปลี่ยนแผนกลางคันของรัฐบาลอาจเป็นผลดีต่ออุตสาหกรรม เนื่องจากบางบริษัทอาจดำเนินธุรกิจต่อไปไม่ไหวและเข้าสู่ภาวะล้มละลาย ส่งผลให้อุปทานเมโมรีชิปลดลง ทำให้ราคาชิปปรับตัวสูงขึ้นในที่สุด" สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน