สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของสิงคโปร์เปิดเผยว่า ยอดส่งออกสินค้ายกเว้นน้ำมันร่วงลง 24%เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนก.พ. หลังจากดิ่งลง 35% ในเดือนม.ค. เนื่องจากยอดส่งออกผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์และผลิตภัณฑ์ทั่วโลกทรุดตัวลง ทั้งนี้ หากเทียบเป็นรายเดือน ยอดส่งออกยกเว้นน้ำมันร่วงลง 1.8% หลังจากดิ่งลง 3.3% ในเดือนม.ค.
ส่วนยอดส่งออกที่นับรวมสินค้าอิเล็กทรอนิก ดิ่งลง 32% ในเดือนก.พ. หลังจากร่วงลง 38% ในเดือนม.ค. ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการร่วงลงของยอดส่งออกสินค้าจำพวกพีซี ดิสก์ไดร์ฟ และชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ ส่วนยอดส่งออกที่ไม่นับรวมสินค้าอิเล็กทรอนิกดิ่งลง 18% ในเดือนก.พ. หลังจากร่วงลง 32% ในเดือนม.ค.เนื่องจากการร่วงลงของยอดส่งออกสินค้าเวชภัณฑ์
ยอดส่งออกสินค้ายกเว้นน้ำมันไปยัง 10 ตลาดใหญ่ๆ ยกเว้นจีน ลดลงในเดือนก.พ. โดยยอดส่งออกไปยังสหรัฐ สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น ดิ่งลงหนักสุดถึง 44%, 37% และ 39% ตามลำดับ แต่ยอดส่งออกยกเว้นน้ำมันไปยังจีนเพิ่มขึ้น 8.4% ในเดือนก.พ.
มูลค่าการค้าโดยรวมในเดือนก.พ.ของสิงคโปร์ลดลง 22% หลังจากดิ่งลง 36% ในเดือนม.ค. ขณะที่ยอดส่งออกโดยรวมดิ่งลง 24% ในเดือนก.พ. หลังจากร่วงลง 38% ส่วนยอดนำเข้าโดยรวมลดลง 20%ในเดือนก.พ. หลังจากดิ่งลง 33% ในเดือนม.ค.
โธมัส ฮาร์ นักยุทธศาสตร์การลงทุนด้านปริวรรตเงินตราของสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด คาดว่า เศรษฐกิจสิงคโปร์จะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย เนื่องจากภาคส่งออกของสิงคโปร์มีสัดส่วนเท่ากับ 191% ของตัวเลขจีดีพี เมื่อเทียบกับอินเดียที่มีความผันผวนน้อยกว่า เนื่องจากภาคส่งออกของอินเดียมีสัดส่วนเพียง 15% ของตัวเลขจีดีพี
ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยธนาคารกลางสิงคโปร์บ่งชี้ว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขจีดีพีของสิงคโปร์ในปีนี้จะหดตัว 4.9% แต่คาดว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้น 3.3% ในปีหน้า ซึ่งก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าเศรษฐกิจสิงคโปร์จะหดตัวเพียง 1% ในปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงส่งผลให้ดีมานด์สินค้าส่งออกของสิงคโปร์หดตัวลงตามไปด้วย สำนักข่าวซินหัวรายงาน