เงินดอลลาร์ออสเตรเลียทำสถิติแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 10 เช่นเดียวกับเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ที่พุ่งสูงขึ้นหลังตลาดหุ้นเคลื่อนไหวในแดนบวก จากอานิสงส์ของการประกาศใช้มาตรการควบคุมอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำของสหรัฐซึ่งจะช่วยกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่าจะเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังคงอัตราดอกเบี้ยในระดับ 0-0.25% ขณะที่อัตราดอกเบี้ยของนิวซีแลนด์อยู่ที่ระดับ 3% ส่วนอัตราดอกเบี้ยของออสเตรเลียอยู่ที่3.25%
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 12:56 น.ตามเวลาซิดนีย์ ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียขยายตัวขึ้น 0.9% แตะที่ระดับ 69.31 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 68.69 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และแข็งค่าขึ้น 1.2% แตะที่ 66.65 เยน/ดอลลาร์ออสเตรเลีย
ด้านเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งค่าขึ้น 0.7% แตะที่ระดับ 56.27 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และเดินหน้าขึ้น 1% สู่ระดับ 54.12 เยน/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์คาดว่า เงินดอลลาร์ออสเตรเลียมีแนวโน้มพุ่งสู่ระดับ 72.80 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย ขณะที่ดอลลาร์นิวซีแลนด์อาจแข็งค่าขึ้นสูงสุด 60.50 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลียในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้
แพทริก เบนเนตต์ นักวิเคราะห์จากโซซิเอเต เจเนอราลของฝรั่งเศสกล่าวว่า "มาตรการของเฟดที่มีขึ้นในครั้งนี้ได้ช่วยให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง นอกจากนี้ ภายหลังจากที่เฟดประกาศมาตรการดังกล่าวทำให้สกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำนั้นอ่อนค่าลง และขอบข่ายการใช้นโยบายทางการเงินแบบผ่อนปรนยังอยู่ในระดับต่ำซึ่งจะให้สกุลเงินเหล่านี้มีแรงซื้อเข้ามาในระยะสั้นๆ"
ทั้งนี้ สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ไต่ระดับขึ้นหลังจากที่วันนี้ดัชนี MSCI Asia Pacific Index เพิ่มขึ้น 2% ขณะที่ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียขยายตัว 1.4%
นอกจากนี้ ค่าเงินทั้งสองสกุลยังได้รับปัจจัยหนุนก่อนที่รัฐบาลสหรัฐจะประกาศมาตรการกำจัดหนี้เสียภาคธนาคารในสัปดาห์นี้ โดยนายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐต้องการขยายวงเงินซื้อสินทรัพย์ที่มีปัญหามูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ