เงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินยูโรและเงินดอลลาร์ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวเช้านี้ หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นรายงานตัวเลขส่งออกเดือนก.พ.ที่ร่วงลงหนักสุดเป็นประวัติการณ์ 49.4% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงอุปสงค์สินค้าที่ลดลง
โดยเงินเยนร่วงลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่กระทรวงคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่าภาวะเศรษฐกิจตกต่ำได้บั่นทอนอุปสงค์รถยนต์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของญี่ปุ่นจนทำให้ยอดส่งออกทรุดฮวบลงเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 2523
ขณะที่เงินปอนด์สเตอริงมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเป็นวันที่ 3 เมื่อเทียบกับดอลลาร์หลังอัตราเงินเฟ้อของอังกฤษดีดตัวขึ้น โดยราคาผู้บริโภคของอังกฤษในเดือนก.พ.ไต่ระดับขึ้น 3.2% จากปีก่อน ต่อเนื่องจากที่ขยายตัว 3% ในเดือนม.ค. และเพิ่มสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าในระดับ 2.6% ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้มีกระแสคาดการณ์เพิ่มมากขึ้นว่า ธนาคารกลางอังกฤษจะรักษาระดับการแข็งค่าของเงินปอนด์อย่างต่อเนื่อง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 09:08 น.ตามเวลาโตเกียว เงินเยนร่วงลงสู่ระดับ 132.47 ยูโร/เยน จากระดับ 131.81 ยูโร/เยนที่ตลาดนิวยอร์กคืนวานนี้ และเงินเยนอ่อนค่าลงแตะที่ 98.21 เมื่อเทียบกับดอลลาร์ จากระดับ 97.86 ต่อดอลลาร์
ด้านเงินยูโรเคลื่อนไหวที่ระดับ 1.3490 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.3468 ยูโร/ดอลลาร์ โดยเมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา เงินดอลลาร์แตะที่ระดับ 1.3738 ยูโร/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค.
ยูซุเกะ โฮโซกาว่า ดีลเลอร์ค่าเงินจากบริษัท Chuo Mitsui Trust and Banking Co.ในกรุงโตเกียวกล่าวว่า "รายงานการส่งออกของญี่ปุ่นเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อเงินเยน เนื่องจากข้อมูลดังกล่าวกดดให้นักลงทุนไม่ต้องการถือครองเงินเยน"